กกร.ประเมินน้ำท่วมกระทบเศรษฐกิจราว 1 หมื่นลบ./ขยับเป้า GDP หลังท่องเที่ยวฟื้นหนุน

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประเมินสถานการณ์น้ำท่วม ปี 2565 ในช่วงที่ผ่านมา โดยคาดการณ์ความเสียหายรวมทั้งประเทศประมาณ 5,000 – 10,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ ภาคเอกชนมีความห่วงใยในพื้นที่โซนเมืองในหลายจังหวัด ซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขัง เนื่องจากเป็นพื้นที่เศรษฐกิจกระทบต่อความเป็นอยู่และการประกอบอาชีพของประชาชน ขณะที่ภาคการเกษตรได้ผลกระทบบ้างในพื้นที่เพาะปลูกข้าวแต่โดยรวมยังไม่กระทบภาพรวมเศรษฐกิจมากนัก ส่วนผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมผู้ประกอบการ ยังมีความมั่นใจว่าจะสามารถรับมือกับความเสี่ยงด้านอุทกภัยได้

นอกจากนี้ ที่ประชุม กกร. ได้ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 65 ซึ่งจะขยายตัวได้ในกรอบ 3.0-3.5% จากเดิมคาด 2.75- 3.5% ขณะที่มูลค่าการส่งออกคาดว่า ขยายตัวได้ในกรอบ 7.0-8.0% จากเดิมคาด 6-8% และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ในกรอบ 6.0-6.5% จาก 5.5-7%

เนื่องจากภาคการท่องเที่ยวมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ปรับสูงขึ้นกว่าคาด โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนสิงหาคมอยู่ที่ 1.17 ล้านคน คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งปี 65 มีโอกาสแตะระดับ 9 – 10 ล้านคน ส่งผลดีต่อการจ้างงานและรายได้แรงงาน ส่งเสริมอุปสงค์ภายในประเทศให้ทยอยฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อในระดับสูงต่อกำลังซื้อของครัวเรือน และความเสี่ยงต่อรายได้ภาคเกษตรจากภาวะน้ำท่วม

ขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังมีแนวโน้มยืนอยู่ในระดับสูง แม้ว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกจะลดลงต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ต่อบาเรล แต่อัตราเงินเฟ้อยังมีแนวโน้มยืนอยู่ในระดับสูง เนื่องจากต้นทุนการนำเข้าปรับตัวสูงขึ้นจากเงินบาทที่อ่อนค่าอย่างต่อเนื่องมาอยู่ที่ระดับ 38 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศยังไม่สามารถลดลงได้มากนัก ขณะที่ค่าไฟฟ้ามีการปรับเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนก.ย. รวมถึงการปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำ ล้วนเป็นปัจจัยกดดันต้นทุนของผู้ประกอบการที่จะต้องส่งผ่านไปยังราคาสินค้าและบริการต่อไป

กรอบประมาณการเศรษฐกิจปี 2565

%YoY ปี 2565ปี 2565ปี 2565
(ส.ค.65)(ก.ย.65)(ต.ค.65)
GDP2.75-3.52.75-3.53.0-3.5
ส่งออก6.0-8.06.0-8.07.0-8.0
เงินเฟ้อ5.5-7.05.5-7.06.0-6.5

นายสนั่น กล่าวว่า กกร. ได้มีการหารือถึงประเด็นเร่งด่วนในการขับเคลื่อน Competitiveness เพื่อให้เศรษฐกิจไทยกลับมาโดดเด่นและแข่งขันได้ โดย กกร. จะมีการหารือกับภาคเอกชนโดยจะเชิญ CEO จากแต่ละกลุ่มธุรกิจร่วมกันหารือ เพื่อรับมือสถานการณ์เศรษฐกิจในปีหน้า พร้อมกับสร้างแนวทางความสามารถในการแข่งขันของประเทศอย่างยั่งยืน

อีกทั้ง ได้มีประเด็นหารือเพิ่มเติมเรื่องข้อคิดเห็นต่อพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 เรื่อง การจัดสรรน้ำและการใช้น้ำ ตามหมวด 4 โดยเสนอให้พิจารณาเลื่อนระยะเวลาในการเรียกเก็บค่าใช้น้ำ หรือหากต้องเรียกเก็บให้ใช้อัตราค่าใช้น้ำเดิมที่ มธ. ได้ใช้ในการประชุมรับฟังความคิดเห็นรอบปัจฉิม ควรระบุเงื่อนไขการเรียกเก็บให้ชัดเจน เช่น การรับน้ำจากผู้สูบจ่ายหรือปรับปรุงคุณภาพน้ำผู้ที่รับน้ำไม่ควรชำระค่าน้ำซ้ำซ้อน และการใช้ที่ดินหรืองบประมาณของภาคเอกชนในการสร้างแหล่งเก็บน้ำ ไม่ควรต้องชำระเงินค่าน้ำให้กับภาครัฐ และกรณีที่ใช้น้ำเพื่อกิจกรรม CSR ให้กับภาคเกษตรและชุมชน หรือทำการเก็บกักน้ำในที่ดินเอกชนเพื่อป้องกันปัญหาน้ำแล้งและอุทกภัย ควรยกเว้น หรือได้รับการลดหย่อนการเรียกเก็บค่าใช้น้ำ

สำหรับการเป็นเจ้าภาพ APEC ในช่วงปลายปีของประเทศไทย นายสนัน กล่าวว่า ภาคเอกชนพร้อมสนับสนุนรัฐบาลในการจัดประชุมให้เป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งในส่วน กกร. ที่รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ABAC 2022 ระหว่างวันที่ 13-15 พฤศจิกายน 2565 และการประชุม APEC CEO Summit 2022 ระหว่างวันที่ 16-18 พฤศจิกายน 2565 ณ Athenee Hotel, a Luxury Collection Hotel, Bangkok โดยยืนยันความพร้อมในทุกมิติ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ต.ค. 65)

Tags: , , , , , , ,
Back to Top