บิ๊กป้อม ประชุมบูรณาการแผนบริหารจัดการน้ำ 20 ปี ลดความเสียหายอุทกภัย-ภัยแล้ง

พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาทรัพยากรน้ำ ผ่านระบบประชุมทางไกล เพื่อเร่งขับเคลื่อนการบริหารจัดการน้ำให้เป็นไปตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์

โดยที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาและเห็นชอบร่างแผนแม่บทบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (66-80) ที่มุ่งจัดการให้ทุกหมู่บ้านมีน้ำอุปโภคบริโภค การจัดการอุทกภัย มีการบริหารจัดการน้ำอย่างมีคุณภาพ สมดุล มีส่วนร่วม และมั่นคงอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งเห็นชอบแต่งตั้งคณะทำงานภายใต้อนุกรรมการขับเคลื่อนแผนแม่บทฯ โดยมุ่งการประเมินผลแผนแม่บท การจัดทำหลักเกณฑ์และขับเคลื่อนการพัฒนา รวมทั้งการขับเคลื่อนประปาหมู่บ้าน รวมทั้งพิจารณาและเห็นชอบความก้าวหน้าการจัดทำคู่มือดูแลและบำรุงรักษาแหล่งน้ำขนาดเล็กที่เกี่ยวกับ การบำรุงรักษาอุปกรณ์น้ำบาดาล ระบบประปาภูเขา ฝายต้นน้ำ ฝายทดน้ำ ประตูระบายน้ำและอ่างเก็บน้ำ รวมทั้งอยู่ระหว่างปรับปรุงคู่มือการดูแลรักษาแหล่งน้ำธรรมชาติ การก่อตั้งองค์กรผู้ใช้น้ำ และการขึ้นทะเบียนแหล่งน้ำขนาดเล็ก

ต่อจากนั้น คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาทรัพยากรน้ำ ได้พิจารณาและให้ความเห็นชอบการสร้างความมั่นคงด้านน้ำลดความเสียหายจากปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง ความก้าวหน้าการขับเคลื่อนโครงการอ่างเก็บน้ำคลองวังโตนด จังหวัดจันทบุรี รองรับการเพิ่มพื้นที่ชลประทาน และการบรรเทาอุทกภัย

รวมทั้งแนวคิดในการพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของกรุงเทพมหานคร (กทม.) พื้นที่ฝั่งตะวันออกเจ้าพระยา ที่ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงระบบระบายน้ำ และการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในพื้นที่รอยต่อกรุงเทพมหานคร เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมขัง ลดความเสียหาย และรองรับการขยายตัวของเมือง

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ทรัพยากรน้ำเป็นผลประโยชน์ร่วมที่ต้องบูรณาการ และเตรียมการร่วมกันในทุกภาคส่วนด้วยความเข้าใจ เพื่อให้สามารถบริหารจัดการน้ำในกระจายไปยังทุกภาคส่วนได้อย่างทั่วถึง เป็นธรรม และเกิดประโยชน์สูงสุดอย่างยั่งยืน ขณะเดียวกันกันปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้น จำเป็นต้องลดผลกระทบที่เกิดขึ้นให้เร็วที่สุด จึงขอให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องรับปัญหาที่เกิดขึ้น ไปเร่งแก้ปัญหาช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ขณะเดียวกันขอให้นำแผนแม่บทบริหารจัดการน้ำ 20 ปี ไปขับเคลื่อนดำเนินการ โดยให้มีแผนงานโครงการและงบประมาณรองรับ เพื่อให้เกิดความยั่งยืนและการพัฒนาแบบมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง

สำหรับในพื้นที่ กทม.ได้ขอให้เร่งจัดทำแผนเร่งด่วน เสนอของบประมาณในให้ทันปี 67 และให้กรมชลประทานและสมุทรปราการ ประสานการทำงานร่วมกับ กทม.ให้มีความเชื่อมโยงและสอดคล้องกัน เพื่อลดปัญหาและผลกระทบจากอุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ต.ค. 65)

Tags: , , , , ,
Back to Top