เงินบาทเปิด 38.13 แข็งค่าจากสัปดาห์ก่อน จับตาบอนด์ยีลด์-ทิศทาง Flow ต่างชาติ

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 38.13 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 38.37 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทเช้านี้แข็งค่า ส่วนสกุลเงินในภูมิภาคเคลื่อนไหวแบบผสม เนื่องจากตลาดคลายความกังวลเรื่องธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขึ้นดอกเบี้ยแรง ขณะที่ทางการญี่ปุ่นก็ตัดสินใจเข้าแทรกแซงค่าเงินเยน

นักบริหารเงิน คาดว่าวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 38.05 – 38.35 บาท/ดอลลาร์ ปัจจัยช่วงนี้ที่ต้องติดตาม คือ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ นอกจากนี้ต้องติดตามดู flow ของต่างชาติ และเรื่องนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ

THAI BAHT FIX 3M (21 ต.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.36590% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.59945%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 148.93 เยน/ดอลลาร์ จากสัปดาห์ก่อนที่ 150.94 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 0.9885 ดอลลาร์/ยูโร จากสัปดาห์ก่อนที่ 0.9742 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 38.339 บาท/ดอลลาร์
  • ผู้บริหารสำนักวิจัย และที่ปรึกษาการลงทุน ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอยในปี 66 โดยเฉพาะสหรัฐและยุโรป หลังธนาคารกลางเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงต่อเนื่องเพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อพุ่งสูง แต่อัตราเงินเฟ้อยังไม่มีท่าทีชะลอลง คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวปีนี้ 2.9% และปี 66 อยู่ที่ 1.5% อาจส่งผลกระทบต่อไทยให้เจอความท้าทายได้ใน6 ด้าน โดยประเมินเศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัว 3.2% และปี 66 ขยายตัว 3.4%
  • ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า จากที่กระทรวงการคลังได้เปิดให้มีการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐใหม่ ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย.-23 ต.ค.65 นั้น ขณะนี้มียอดลงทะเบียนรวม 21.98 ล้านคน แบ่งเป็นการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ 9.75 ล้านคน และลงทะเบียนผ่านหน่วยรับลงทะเบียนทั่วประเทศ 12.23 ล้านคน โดยจะเปิดให้มีการลงทะเบียนไปจนถึงวันที่ 31 ต.ค.นี้เท่านั้น
  • นายกฯ มั่นใจการท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง ยอดจองตั๋วที่นั่งโดยสารบินเข้าไทยช่วงฤดูหนาว ฟื้นตัวเกิน 50% จากช่วงโควิด-19 และเพิ่มขึ้น 74.2% จากช่วงฤดูร้อน มั่นใจ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติปี 2565 เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 10 ล้านคน
  • รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รายงานภาพรวมเศรษฐกิจภูมิภาคเดือนกันยายน 2565 ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่มีสำนักงานภาค 3 แห่ง ประกอบด้วยสำนักงานภาคเหนือ สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และสำนักงานภาคใต้ มีการติดตามและวิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค ทั้งในส่วนของเศรษฐกิจภาพรวม ประเด็นเศรษฐกิจที่สำคัญในภูมิภาค เพื่อใช้ประเมินทิศทางเศรษฐกิจในภูมิภาคให้ครอบคลุมและทันเหตุการณ์พบว่ามาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐส่งผลให้เศรษฐกิจภูมิภาคโดยรวมทยอยฟื้นตัวต่อเนื่อง
  • ททท. ดันร่างโครงการใหม่กระตุ้นเศรษฐกิจปลายปีเป็นของขวัญให้คนไทย เบื้องต้นมองที่โครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 ส่วนบูสเตอร์ช็อตท่องเที่ยวส่อวืด
  • สำนักนายกรัฐมนตรีอังกฤษเปิดเผยแถลงการณ์เมื่อวานนี้ระบุว่า นายริชิ ซูนัก ผู้นำพรรคอนุรักษ์นิยมของอังกฤษจะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษอย่างเป็นทางการในวันนี้ (25 ต.ค.) หลังจากเข้าเฝ้าพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3
  • มูดี้ส์ อิสเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของอังกฤษลงสู่ “เชิงลบ” จาก “มีเสถียรภาพ” เนื่องจากอังกฤษกำลังเผชิญกับภาวะไร้เสถียรภาพด้านการเมืองและอัตราเงินเฟ้อที่สูงมาก
  • เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 47.3 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน จากระดับ 49.5 ในเดือนก.ย. โดยดัชนี PMI ถูกกดดันจากการหดตัวของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน ขณะที่ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี
  • ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3 ของสหรัฐ และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ประจำเดือนก.ย.ของสหรัฐ ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ต.ค. 65)

Tags: , ,
Back to Top