ธปท.ระบุนโยบายการเงินระยะต่อไปขึ้นกับบริบทของไทย,ยืดหยุ่นตามสถานการณ์

น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายองค์กรสัมพันธ์ และโฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การตัดสินนโยบายล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และการสื่อสารเกี่ยวกับแนวนโยบายในอนาคต เป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาดไว้ โดยขณะนี้เฟดมุ่งมั่นที่จะดูแลเงินเฟ้ออย่างเต็มที่ก่อน เพื่อไม่ให้เกิดผลเสียต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ เองในระยะยาว ทั้งนี้ หลังการประชุมอาจเห็นความผันผวนระยะสั้นในตลาดการเงินโลกและไทยบ้าง ซึ่ง ธปท.ได้ติดตามอย่างใกล้ชิด

ในส่วนของการดำเนินนโยบายของไทยในระยะต่อไป ก็ต้องพิจารณาให้เหมาะสมกับบริบทของไทยเช่นกัน ทั้งแนวโน้มเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และเสถียรภาพระบบการเงิน โดยการดำเนินนโยบายจะมีความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสถานการณ์และให้ทันกาล ตามที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้สื่อสารมาต่อเนื่อง

น.ส.ชญาวดี กล่าวว่า สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท การตัดสินนโยบายของเฟดส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเทียบกับทุกสกุล โดยในช่วงเช้าค่าเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง 0.8% และดัชนีค่าเงินบาท (เทียบสกุลภูมิภาค) อ่อนลง 0.34% ด้านเงินทุนเคลื่อนย้ายยังไม่พบสัญญาณผิดปกติ

ทั้งนี้ นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 2 พ.ย.65 เงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลง 11% โดยถือว่าอ่อนในระดับกลาง ๆ เทียบกับสกุลเงินในภูมิภาค ส่งผลให้ดัชนีค่าเงินบาทอ่อนลงเพียง 0.7% สำหรับนักลงทุนต่างชาติยังมีฐานะเป็นซื้อสุทธิในสินทรัพย์ไทยประมาณ 1.1 แสนล้านบาท (ซื้อสุทธิในตลาดหลักทรัพย์กว่า 1.6 แสนล้านบาท และขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 5 หมื่นล้านบาท)

“ธปท.ได้ติดตามสถานการณ์การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท และเงินทุนเคลื่อนย้ายอย่างใกล้ชิดโดยภาคเอกชนควรบริหารความเสี่ยงอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของตลาดการเงินในสถานการณ์ที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง”

โฆษก ธปท.ระบุ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 พ.ย. 65)

Tags: , , , ,
Back to Top