เงินบาทเปิด 37.39 แนวโน้มผันผวน ให้กรอบวันนี้ 37.25-37.60 จับตาทิศทาง Flow

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 37.39 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากปิดตลาดเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 37.52 บาท/ดอลลาร์ ด้านสกุลเงินภูมิภาคเช้านี้เคลื่อนไหวแบบผสม

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 37.25 – 37.60 บาท/ดอลลาร์ ให้กรอบเปิดกว้าง เนื่องจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาทางการจีนออกมาดับความหวังเรื่องการผ่อนคลายนโยบายโควิด จึงอาจทำให้เงินบาทผันผวน ประกอบกับคาดว่าจะมี Flow ทอง นอกจากนี้ ยังต้องติดตาม Portfolio Flow โดยช่วงนี้ต่างชาติเข้าซื้อพันธบัตรไทยค่อนข้างมาก และต้องติดตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ควบคู่ไปด้วย

THAI BAHT FIX 3M (4 พ.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.06771% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.40168%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 147.02 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 148.78 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 0.9938 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 0.9779 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 37.683 บาท/ดอลลาร์
  • รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า สถานการณ์เงินเฟ้อของไทยมีแนวโน้มชะลอตัวลง หลังจากขึ้นไปสูงสุดในเดือนส.ค. 65 ที่ 7.86% พอมาเดือนก.ย. 65 ลดลงเหลือ 6.41% และเดือนต.ค. 65 ยังไม่ออก แต่เท่าที่ติดตามและประเมินเบื้องต้น คาดว่าอาจจะไม่ถึง 6% สะท้อนว่าสถานการณ์ราคาสินค้าในภาพรวมมีแนวโน้มชะลอตัวลง ต่างกับหลายประเทศที่ประสบตัวเลขเงินเฟ้อสูงมาก เป็นเพราะรัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ทำงานร่วมกับเอกชนและหลายฝ่าย ช่วยกันกำกับดูแลราคาสินค้าและบริการ
  • ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สรุปมูลค่าซื้อขาย หลักทรัพย์สะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-4 พ.ย. 65 แยกเป็นนักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 143,573.98 ล้านบาท บริษัทบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ซื้อสุทธิ 1,275.66 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 168,910.53 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศ (รายย่อย) ขายสุทธิ 26,612.21 ล้านบาท
  • เจ้าหน้าที่ของสำนักงานป้องกันและควบคุมโรคของคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (NHC) เปิดเผยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (5 พ.ย.) ว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วประเทศทำให้จีนยังคงต้องยึดมั่นต่อนโยบายโควิดเป็นศูนย์ และยังกล่าวด้วยว่าการใช้นโยบายดังกล่าวได้รับการพิสูจน์แล้วว่าคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยถ้อยแถลงของนายหู ถือเป็นการดับความฝันของนักลงทุน หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า จีนจะผ่อนคลายนโยบายโควิดเป็นศูนย์ และอาจจะทำการเปิดประเทศในเดือนมี.ค. 66
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 261,000 ตำแหน่งในเดือน ต.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 200,000 ตำแหน่ง แต่ก็ชะลอตัวจากระดับ 315,000 ตำแหน่งในเดือน ก.ย. ขณะที่อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.7% จากระดับ 3.5% ในเดือนก.ย.
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันศุกร์ (4 พ.ย.) โดยได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ซึ่งจะเพิ่มความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่นๆ
  • ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงอย่างรุนแรงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (4 พ.ย.) หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐ ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.50% ในการประชุมเดือนธ.ค.
  • นักลงทุนจับตาการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐในวันอังคารที่ 8 พ.ย.นี้ ขณะที่ผลสำรวจ ระบุว่า ชาวอเมริกันจำนวนมากไม่พึงพอใจต่อการทำงานของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งทำให้มีการคาดการณ์ว่าพรรคเดโมแครตจะพ่ายแพ้พรรครีพับลิกันในการเลือกตั้งกลางเทอมครั้งนี้
  • ตลาดการเงินทั่วโลกรอดูการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนต.ค. ของสหรัฐในวันพฤหัสบดีนี้ โดยดัชนี CPI เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เกิดจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค และเป็นหนึ่งในข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใช้ประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงิน ซึ่งหากดัชนี CPI ออกมาสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีท ก็อาจผลักดันให้เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 พ.ย. 65)

Tags: , ,
Back to Top