หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งแคบอิงบวกคล้ายภูมิภาค รอผลเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐ

นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบอิงทางบวก คล้ายตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย จากนักลงทุนรอดูผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐ หากพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากในสภาฯ คาดว่าจะหนุนค่าเงินดอลลาร์ให้ปรับตัวอ่อนค่า และเงินทุนต่างชาติไหลเข้าต่อเนื่อง ให้แนวรับ 1,628 จุด และแนวต้าน 1,635-1,640 จุด

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบอิงทางบวก สอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากนักลงทุนรอดูผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐ ซึ่งในเวลานี้คะแนนค่อนข้างจะใกล้เคียงกัน หากพรรคริพับลิกันสามารถครองเสียงข้างมากในสภาฯ หรือมีคะแนน 218 คะแนนเสียง จะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวอ่อนค่าลง และเงินทุนต่างชาติไหลเข้าต่อเนื่องโดยเดือนพ.ย.นี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทยแล้วกว่า 15,776 ล้านบาท และตราสารหนี้ รวมกว่า 79,436 ล้านบาท ซึ่งเงินทุนที่ไหลกลับเข้ามาสะท้อนมุมมองเชิงบวกของนักลงทุนต่างชาติ ที่มีต่อหุ้นไทยและแนวโน้มเศรษฐกิจไทย

ให้แนวรับ 1,628 จุด และแนวต้าน 1,635-1,640 จุด

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (8 พ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,160.83 จุด เพิ่มขึ้น 333.83 จุด หรือ +1.02%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,828.11 จุด เพิ่มขึ้น 21.31 จุด หรือ +0.56% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,616.20 จุด เพิ่มขึ้น 51.68 จุด หรือ +0.49%
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,884.55 จุด เพิ่มขึ้น 12.44 จุด หรือ +0.04%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 16,552.80 จุด ลดลง 4.51 จุด หรือ -0.03% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,064.46 จุด ลดลง 0.03 จุด หรือ -0.00%
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (8 พ.ย.65.) ที่ระดับ 1,632.61 จุด เพิ่มขึ้น 9.04 จุด, +0.56%
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,231.71 ล้านบาท เมื่อวันที่ 8 พ.ย.65
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.(8 พ.ย.)ลดลง 2.88 ดอลลาร์ หรือ 3.1% ปิดที่ 88.91 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (8 พ.ย.) อยู่ที่ 6.62 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 36.88 แข็งค่าในรอบ 6 สัปดาห์ตามภูมิภาค ลุ้นผลเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ
  • นับหนึ่งใหม่แก้กฎกระทรวง มหาดไทยให้ต่างชาติถือครองที่ดิน “กฤษฎีกา” ชี้ “มหาดไทย” นำไปรับฟังความคิดเห็นเอง “วิษณุ” ระบุรัฐบาลสอบตกเรื่องการชี้แจงความรัดกุมของกฎหมายที่ให้เฉพาะ 4 กลุ่ม เป้าหมาย สมาคมอสังหาฯ พับแผนยื่นข้อเสนอ นายกฯ 10 พ.ย. นี้ เตรียมระดมสมอง 15 สมาคมในภูมิภาค สมาคมอาคารชุด สมาคมบ้านจัดสรร ภาคก่อสร้างและออกแบบ คาดได้ข้อสรุปไตรมาสแรกปีหน้า
  • ลงทุนไทย-ซาอุฯ คึกคักรับฟื้นความสัมพันธ์ บีโอไอสั่งลุยดึงร่วมทุน 5 อุตฯมีศักยภาพ เล็งร่วมมือ “เกม-อีสปอร์ต” รับเทรนด์คนรุ่นใหม่ ชี้ช่องไทยลงทุนซาอุฯ กลุ่มพลังงานทดแทน อาหารแปรรูป รับวิชั่น 2030 ขณะ Investment Forum ตอบโจทย์ เล็งเกิดลงทุนใหม่ไทย-ซาอุฯปี 66 ไม่ต่ำ 1 หมื่นล้าน
  • “พลังงาน” เร่งสร้างอีโคซิสเต็มพลังงานสะอาด ลดพึ่งนำเข้า ชูแผนหนุนไทยสู่เป้าหมาย “เน็ตซีโร่” สผ.กางโรดแมป ดันไทยสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ตั้งเป้าปี 2050 กว่า 74% ของการผลิตไฟ จากพลังงานหมุนเวียน หยุดใช้ถ่านหิน อบก.เดินหน้า ตลาดคาร์บอน ดึงท้องถิ่น 76 จังหวัด ร่วมประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกระดับจังหวัด ตั้งเป้าไปสู่คาร์บอนเป็นศูนย์ระดับจังหวัด
  • ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างของไทยมีทิศทางเพิ่มขึ้น แต่เป็นการเพิ่มขึ้นชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยดัชนีเดือน ต.ค.65 อยู่ที่ 119.6 เพิ่มขึ้น 3.6% เทียบเดือน ต.ค.64 แต่ลดลงจากเดือน ก.ย.65 ที่สูงถึง 5.2% เพราะราคาเหล็กและผลิตภัณฑ์, ซีเมนต์, ผลิตภัณฑ์คอนกรีต และวัสดุก่อสร้างอื่นๆ ชะลอลง แต่ยังสูงกว่าปีก่อน เพราะมีสินค้าบางรายการที่ราคาเพิ่มขึ้นจากสภาพอากาศ น้ำท่วม และราคาพลังงานที่สูงขึ้น โดยจำแนกรายหมวด ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้เพิ่ม 8.1% จากปีก่อน, ซีเมนต์เพิ่มขึ้น 6.9%, ผลิตภัณฑ์คอนกรีตเพิ่มขึ้น 3.8%, เหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กเพิ่มขึ้น 1.3%, กระเบื้องเพิ่มขึ้น 4.4%, วัสดุฉาบผิวเพิ่มขึ้น 2.5%, สุขภัณฑ์เพิ่มขึ้น 0.7%

*หุ้นเด่นวันนี้

  • KTB (ดาโอ) เป้าเชิงกลยุทธ์ 18.50 บาท เสริมหุ้นกลุ่มแบงก์ คาดนำ SET ทดสอบแนวต้าน 1650 แนะนำทยอยซื้อกลุ่มแบงก์ KTB, BBL น่าเก็บ คาดนำตลาด Sideway up ทดสอบแนวต้านบริเวณ 1640-1650 Flow ต่างชาติไหลเข้า แนวโน้มสินเชื่อและรายได้ค่าธรรมเนียมในไตรมาส 4/65 มีโอกาสโตเด่น YoY การตั้งสำรองที่ต่ำและ NIM ที่เพิ่มขึ้นหนุนกำไรอีกทางหนึ่ง DAOL ประเมินกำไรสุทธิปี 2565-2566 ที่ 3.36 หมื่น ลบ. และ 3.64 หมื่น ลบ. +56%YoY, +8.4%YoY ตามลำดับ
  • NSL (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 26 บาท คาดกำไรไตรมาส 3/65 -10% Q-Q เนื่องจากเป็นฤดูฝน แต่ +200% Y-Y จากฐานต่ำปีก่อน ด้านรายได้คาดยังโตน่าประทับใจ แต่ต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น ทำให้ Margin ชะลอตัวเล็กน้อย แนวโน้มกำไรไตรมาส 4/65 จะกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นตามฤดูกาลและมีโอกาสทำ New High ตามการฟื้นตัวของ Traffic และการขยายสาขาใหม่ของ 7-11 เราคาดกำไรปี 2565 +59% Y-Y และโตต่อเนื่องในปี 2566 +19% Y-Y ราคาหุ้นปรับฐานแรงทำให้ Upside กลับมาเปิดกว้างอีกครั้ง
  • GPSC (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้า BB Consensus 77.9 บาท ค่าเงินบาทแข็งค่ามากสุดในรอบ 1 เดือนครึ่งเป็นบวกกับ GPSC ซึ่งมีหนี้เป็น US Dollar ขณะเดียวกันยังได้ Sentiment บวกจากราคาน้ำมันที่ลดลงทำให้แรงกดดันจากต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้นเริ่มผ่อนคลาย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 พ.ย. 65)

Tags: , , ,
Back to Top