ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่มีนายศุภชัย โพธิสุ รองประธานสภาฯ คนที่สอง ทำหน้าที่ประธาน มีมติเห็นชอบพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ผ่อนผันให้กระทรวงการคลังค้ำประกันการชำระหนี้ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2565 ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอ 239 เสียง ไม่เห็นด้วย 166 เสียง งดออกเสียยง 3 เสียง ไม่ลงคะแนน 3 เสียง
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ชี้แจงว่า ครม.มีมติเห็นชอบในร่าง พ.ร.กให้อำนาจกระทรวงการคลังค้ำประกันการชำระหนี้ฯ และมีผลบังคับใช้แล้วเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2565 เหตุผลเพราะสถานการณ์เศรษฐกิจและสถานการณ์น้ำมันโลกในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมาเกิดจากการเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ดี ในประเด็นของกองทุนน้ำมัน มีหลักการคือ เพิ่มเสถียรภาพกองทุนน้ำมัน และก๊าซหุงต้ม ที่ติดลบช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19
“รัฐบาลจำเป็นต้องทำ ไม่เช่นนั้นแล้ว 1.5 แสนล้านบาท ไม่ต้องมีก็ได้ แต่ประชาชนคนไทยจะต้องรับภาระตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา หรือต้นปี 2565 ราคาน้ำมันอาจจะขึ้น 40 – 50 บาทต่อลิตรก็ได้ ถ้ากระทรวงการคลังไม่ช่วยมาสนับสนุน ราคา LPG อาจจะสูงถึง 525 บาทต่อถัง (15 กิโลกรัม) ก็ได้ แล้วประเทศไทยจะอยู่ได้อย่างไร ส่วนที่แบงก์รัฐไม่ปล่อยกู้นั้น เพราะมีข้อเสนอที่มีความยุ่งยาก และยังต้องมีความจำเป็นต้องไปใช้ช่วยเหลือประชาชน นอกจากนี้ น้ำมันยังเป็นสินค้าควบคุม จึงต้องไปถามกระทรวงพาณิชย์ด้วย”
นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 พ.ย. 65)
Tags: กระทรวงการคลัง, ศุภชัย โพธิสุ, สภาผู้แทนราษฎร, สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง, สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์