กูรูคาดตลาด M&A ปีหน้ายังไปต่อ แต่เกิด Lipstick Effect เน้นดีลขนาดเล็ก

รายงานการทำธุรกรรมควบรวมกิจการและซื้อกิจการ (M&A) ซึ่งจัดทำโดยบริษัทวิลลิส ทาวเวอร์ส วัตสัน (Willis Towers Watson – WTW) ระบุว่า มูลค่าและขนาดของ M&A ทั่วโลกลดลงอย่างมากในปีนี้ เนื่องจากปัญหาด้านเศรษฐกิจมหภาคได้ส่งผลกระทบต่อตลาดทั่วโลก

ข้อมูลของ WTW ระบุว่า นับเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีที่ไม่มีการทำข้อตกลง M&A ครั้งใหญ่ที่มีมูลค่าสูงกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3/2565 โดยในช่วงเวลาดังกล่าว มีดีล M&A ที่มีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์เพียง 49 ดีล เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 67 ดีล

อย่างไรก็ดี แม้มีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก, ความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ รวมทั้งปัญหาเงินเฟ้อและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะเกิดขึ้นยาวนานไปจนถึงปี 2566 แต่ WTW คาดว่า การทำข้อตกลง M&A จะยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง

มาสซิโม บอร์กเฮลโล หัวหน้าฝ่ายที่ปรึกษาด้าน M&A ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ WTW กล่าวว่า “แม้มีหลายปัจจัยที่ทำให้การทำข้อตกลง M&A สะดุดลง แต่ปัจจัยเหล่านั้นก็สร้างโอกาสด้วยเช่นกัน เมื่อพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานพบว่า แรงขับเคลื่อนในการทำ M&A ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยมูลค่าการทำธุรกรรมชะลอลงหลังจากที่พุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2564 ผู้ซื้อเชิงกลยุทธ์และการเงินจะฉวยประโยชน์จากโอกาสในการเติบโตในราคาที่ดีกว่า”

สำหรับแนวโน้มในปี 2566 นั้น WTW คาดการณ์ว่า ความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะกระตุ้นให้เกิด “Lipstick Effect” ในปีหน้า ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ผู้ซื้อหันไปให้ความสนใจกับการทำข้อตกลงที่มีขนาดเล็กลง แทนการทำข้อตกลงขนาดใหญ่

นอกจากนี้ สภาพแวดล้อมด้านการดำเนินงานที่มีความท้าทายนั้น จะเป็นแรงผลักดันให้บริษัทต่าง ๆ พากันเทขายสินทรัพย์ที่ไม่ใช่สินทรัพย์หลัก ยกตัวอย่างเช่น บริษัทพลังงานอาจจะยังคงขายสินทรัพย์ที่เกี่ยวกับคาร์บอน

“สภาพแวดล้อมดังกล่าวสามารถสร้างโอกาสให้กับผู้ซื้อที่ต้องการจะเพิ่มสายผลิตภัณฑ์ การบริการ หรือห่วงโซ่อุปทานในราคาที่ลดลง” WTW ระบุในรายงาน

WTW ยังระบุด้วยว่า ในปี 2566 อุตสาหกรรมเทคโนโลยีมีแนวโน้มที่จะเกิดการรุกซื้อกิจการในตลาดปัญญาประดิษฐ์ (AI) และตลาด Machine learning หรือการเรียนรู้ของระบบคอมพิวเตอร์

นอกจากนี้ ภาวะติดขัดด้านห่วงโซ่อุปทานที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่โรคโควิด-19 แพร่ระบาด จะกลายเป็นแรงผลักดันให้บริษัทต่าง ๆ หันมาทำข้อตกลง M&A เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับการดำเนินธุรกิจ

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ธ.ค. 65)

Tags: , , , , ,
Back to Top