นายกฯ ส่ง บิ๊กช้าง รับหน้าตอบกระทู้ แจงยิบปมเรือหลวงอับปาง

พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ตอบกระทู้ถามสดด้วยวาจา ของนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล (ก.ก.) และนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย แทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปางกลางทะเล ถึงไทม์ไลน์ของการให้ความช่วยเหลือ อุปกรณ์ชูชีพ ประเด็นของการซ่อมบำรุงว่า ในวันที่ 18 ธันวาคม 65 เรือรบหลวงสุโขทัยปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนในสภาพอากาศที่เป็นคลื่นลมแรง ก่อนจะออกภารกิจก็จะประเมินสถานการณ์จากข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยา

โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นในเวลา 18.40 น. วันที่ 18 ธันวาคม 2565 สำหรับสาเหตุหลักนั้น กองทัพเรือได้รายงานว่าวันนั้นมีสภาพอากาศคลื่นลมแรง และมีน้ำเข้ามาในตัวเรือบางส่วน ส่งผลไปถึงเครื่องจักรใหญ่ทำให้หยุดทำงาน จนไม่สามารถควบคุมเรือได้ และน้ำเข้ามาตัวเรืออย่างรวดเร็ว เวลา 18.40 น. เรือเอียงอยู่ 60 องศา โดยศูนย์อำนวยการกองทัพเรือได้รับรายงาน และได้รายงานถึง รมว.กลาโหม ซึ่งได้สั่งการให้กองทัพเรือได้เข้าแก้ไขสถานการณ์เพื่อควบคุมเรือรบ และดูแลความปลอดภัยของลูกเรือทุกนาย

พล.อ.ชัยชาญ กล่าวต่อว่า ด้วยสภาพคลื่นลมในช่วงนั้น ทำให้เรือกระบุรีถึงเรือรบหลวงสุโขทัยประมาณเวลา 20.40 น. ส่วนอุปกรณ์ช่วยชีวิต โดยปกติจะมีอัตราประจำเรือ ส่วนหนึ่งเป็นอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล ชูชีพส่วนบุคคล แพชูชีพ และชูชีพเป็นวง แต่แพชูชีพปล่อยไม่ได้ เพราะคลื่นทะเลแรง แม้แต่เฮลิคอปเตอร์ที่นำไปช่วยก็ทำได้ยาก เพราะเรือและเสากระโดงโคลงเคลง

ส่วนการตั้งข้อสังเกตว่าภายในเรือหลวงสุโขทัยมีเสื้อชูชีพครบหรือไม่ ได้สั่งให้กองทัพเรือไปตรวจสอบให้กระจ่างและชี้แจงต่อสังคมแล้ว

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมานั้น จะต้องไปสอบสวนข้อเท็จจริงว่าอุปกรณ์ต่างๆ ได้ถูกใช้ทั้งหมดครบถ้วนหรือไม่อย่างไร แพชูชีพที่ติดอยู่กับเรือหลวงสุโขทัย ปล่อยลงไปในทะเลได้หรือไม่ เรือเล็กลงไปได้หรือไม่ ในส่วนนี้กองทัพเรือจะดำเนินการให้กระจ่าง และได้เน้นย้ำไปยังผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ว่าการสอบสวนจะต้องให้ประชาชนได้เข้าใจ และรับทราบข้อเท็จจริงด้วย และกำลังพลทั้งหมด 70 กว่านายที่จะต้องให้ปากคำนั้น ทุกคนอยู่ในเหตุการณ์จริง ดังนั้นการจะทำให้เหตุการณ์นั้นไม่จริง คงไม่เป็นได้ยาก

ในประเด็นเรื่องของการซ่อมบำรุงเรือหลวงสุโขทัย ได้ซ่อมบำรุงใหญ่เมื่อปี 2561-2563 และรับกลับมาในปี 2564 งบประมาณซ่อมบำรุงที่กองทัพเรือได้รับ โดยเฉพาะกับการซ่อมบำรุงเรือ เฉลี่ยปีละ 1,300 ล้านบาท สำหรับปี 2566 ได้รับจัดสรรงบประมาณ 1,800 ล้านบาท ทั้งนี้ อายุการใช้งานเรือของกองทัพเรือเฉลี่ยส่วนใหญ่เกิน 30 ปีขึ้นไป ส่วนอายุเรือรบหลักๆ อยู่ที่ 40 ปี ฉะนั้น สาเหตุจริงๆ ที่ทำให้เรืออับปางต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน

ส่วนการจัดซื้อเรือดำน้ำจากจีนนั้น พล.อ.ชาญชัย กล่าวว่า เรือดำน้ำและเครื่องบินเอ็มทียู เป็นเครื่องที่ผลิตกระแสไฟฟ้า ถึงปัจจุบันนี้ทางกองทัพเรือยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเป็นเอ็มทียูของจีน ซึ่งกองทัพเรือได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษารายละเอียดให้ชัดเจน ถึงประสิทธิภาพของเครื่อง และวางแผนไปดูถึงโรงงานผลิต ขีดความสามารถ เพื่อมาวิเคราะห์อีกครั้ง โดยจะต้องได้เครื่องที่มีประสิทธิภาพสูงสุดมาใช้ในเรือดำน้ำได้

โดยในช่วงเดือนมกราคมหรือเมษายน 2566 จะเดินทางถึงแหล่งผลิต เพื่อดูมาตรฐานและการดำเนินงาน ที่สำคัญเครื่องที่ผลิตโดยประเทศจีนอาจจะต้องใช้ในยุทโธปกรณ์ของจีนด้วย ซึ่งกองทัพเรือยึดถือประโยชน์ ความปลอดภัยของกำลังพลสามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยืนยันว่าจะต้องใช้งบประมาณให้เกิดประโยชน์คุ้มค่ามากที่สุด

พร้อมระบุถึงการปฏิรูปกองทัพว่า กองทัพมีการปฏิรูปมาโดยต่อเนื่อง มีแผนระยะเวลา 5 ปี 10 ปี ทั้งเรื่องกำลังพล การปฏิบติทางยุทธการ การส่งกำลังบำรุง เราไม่ได้อยู่เฉยในการทำให้กองทัพมีประสิทธิภาพ และให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปและทำให้กองทัพเป็นกองทัพที่มีประสิทธิภาพ เป็นที่เชื่อมั่นของประชาชน ที่จะดูแลสิทธิอธิปไตยของประเทศตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ธ.ค. 65)

Tags: , , ,
Back to Top