เงินบาทเปิด 33.64 แข็งค่าตามภูมิภาค จับตานทท.จีนเที่ยวไทยหลังเปิดประเทศ

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.64 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 34.04 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทเช้านี้แข็งค่า เช่นเดียวกับสกุลเงินในภูมิภาค เนื่องจากเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทั้งตัวเลขการจ้างงาน และดัชนี ISM ภาคบริการออกมาต่ำเกินคาด
ทำให้บอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ลงแรง โดยตลาดมองว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)น่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่ชะลอลง

สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามช่วงนี้ คือ จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่จะเข้ามาในประเทศไทย หลังจากที่จีนประกาศเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. ขณะเดียวกันยังต้องติดตามกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายด้วย

นักบริหารเงิน คาดว่าวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.50 – 33.80 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (6 ม.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.26074% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.61382%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 131.94 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 133.53 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0656 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.0527 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.993 บาท/ดอลลาร์
  • จีนเปิดประเทศอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 66 หลังจากปิดไป 3 ปี เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยขณะนี้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางทางบก และทางน้ำ ข้ามไปมาระหว่างจีน-ฮ่องกงได้โดยไม่ต้องกักตัว ความเคลื่อนไหวดังกล่าว ถือเป็นการสิ้นสุดนโยบายซีโร่โควิด (ZERO-Covid) ของจีน ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อปกป้องประเทศจากโควิด
  • ไทยพร้อมแล้วรับจีนเปิดประเทศ “อนุทิน” นำคณะ 3 กระทรวงร่วมต้อนรับนักท่องเที่ยวแผ่นดินใหญ่ 286 คน บินจาก “เซี่ยเหมิน” มาลง “สุวรรณภูมิ” เดินหน้าตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกดูแลนักท่องเที่ยวระยะยาว
  • ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออกการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.เตรียมจัดโรดโชว์ส่งเสริมการขายที่จีนในช่วงสัปดาห์ที่ 3 เดือน ก.พ.66 ในพื้นที่หลัก 3 เมือง ได้แก่ เมืองเซี่ยงไฮ้ กว่างโจว และเฉิงตู นำผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั้งฝั่งไทยและจีนมาพบปะเจรจาธุรกิจกันรวม 120 ราย ประกอบด้วยฝั่งไทย 60 ราย และฝั่งจีนอีก 60 ราย เพื่อนำไปจัดทำแพ็กเกจท่องเที่ยวไทย เสนอขายแก่นักท่องเที่ยวจีนทั้งกลุ่มเดินทางด้วยตัวเอง (FIT) และเตรียมการขายสำหรับกรุ๊ปทัวร์ เมื่อรัฐบาลจีนอนุญาต
  • ภาคเอกชนท่องเที่ยว”สทท.-สมาคมโรงแรมไทย” ชี้โจทย์ใหญ่และความท้าทายภาคท่องเที่ยวไทยปี 66 เร่งพลิกฟื้นซัพพลาย ปริมาณเที่ยวบินระหว่างประเทศ แรงงาน โหมโปรโมทจุดขายใหม่ เมืองแห่งการประชุมสัมมนา เกษียณ อาหาร กีฬากลางแจ้งระดับโลก รับดีมานด์นักท่องเที่ยวต่างชาติ ขุมทรัพย์ใหญ่ “จีน” รีเทิร์น ลุ้นยอดเยือนไทยทะลุ 30 ล้านคน หนุนเครื่องยนต์ฝ่ามรสุมปัจจัยลบ ปลุกเศรษฐกิจไทย
  • จับตาอสังหาฯปี 66 มีทั้งโอกาสและความเสี่ยง “ดอกเบี้ย-ต้นทุนราคา” ขาขึ้น กระทบธุรกิจ การตัดสินใจซื้อ ด้านบิ๊กคอร์ป “ออริจิ้น-แสนสิริ-อนันดา” มั่นใจสัญญาณบวก “ท่องเที่ยวฟื้น-จีนคัมแบ็ก” ความหวังอสังหาฯ ไทย กระตุ้นดีมานด์พุ่ง หนุนกำลังซื้อในประเทศ ประกาศเดินหน้าเปิดโครงการใหม่
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 223,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค.สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 200,000 ตำแหน่ง แต่ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายเดือนโดยชะลอตัวจากระดับ 0.6% ในเดือนพ.ย. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.4%
  • ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงอย่างรุนแรงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์(6 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรรวมทั้งดัชนีภาคบริการของสหรัฐ บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว
  • นักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในการประชุมวันที่ 31 ม.ค. – 1 ก.พ.นี้ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสูงกว่าคาด แต่ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน ซึ่งเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับเงินเฟ้อนั้น ออกมาต่ำกว่าคาด ซึ่งบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว
  • ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะมีการรายงานในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนธ.ค.,สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนพ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธ.ค., ราคานำเข้าและส่งออกเดือนธ.ค. และ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนม.ค.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ม.ค. 66)

Tags: , ,
Back to Top