
GfK ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยตลาดเปิดเผยผลสำรวจในวันนี้ว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอังกฤษร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปีในเดือนม.ค. และเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 3 เดือน เนื่องจากความวิตกกังวกลเกี่ยวกับเศรษฐกิจและค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเงินของภาคครัวเรือน
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวลดลง 3 จุด สู่ระดับ -45 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ที่เริ่มเก็บข้อมูลเมื่อปี 2517 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ -40 จากเมื่อเดือนธ.ค.ที่ -42
รายงานได้เน้นย้ำถึงผลกระทบของราคาสินค้าที่พุ่งสูงและภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนที่มีต่อภาคครัวเรือนของอังกฤษ รวมทั้งข้อมูลที่ระบุว่าผู้บริโภคที่มีรายได้ลดลงเริ่มมีจำนวนมากขึ้น
สำนักงานสถิติแห่งชาติ (ONS) ของอังกฤษเปิดเผยว่า ราคาพลังงานและค่าอาหารพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งบั่นทอนรายได้ในภาคครัวเรือน โดยราคาอาหารในเดือนธ.ค.พุ่งสูงขึ้น 16.8% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่ก.ย. 2520 ขณะเดียวกันคาดว่าต้นทุนการใช้จ่ายด้านพลังงานเฉลี่ยในภาคครัวเรือนของอังกฤษมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นแตะที่ 3,000 ปอนด์ ($3,697.50) ต่อปีตั้งแต่เดือนเม.ย.นี้
นายโจ สเตตัน ผู้อำนวยฝ่ายกลยุทธ์ลูกค้าของ Gfk กล่าวว่า “เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่เริ่มส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพ และโอกาสที่ราคาพลังงานจะพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงในเร็ว ๆ นี้ ทำให้เราคาดการณ์ว่าดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในปีนี้จะอ่อนแรงลงอย่างมาก”
ทั้งนี้ GfK จัดผลสำรวจความคิดเห็นจากภาคประชาชนจำนวน 2,000 คนในระหว่างวันที่ 3-12 ม.ค.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ม.ค. 66)
Tags: GfK, ความเชื่อมั่นผู้บริโภค, ค่าครองชีพ, ภาคครัวเรือน, รายได้, อังกฤษ, เงินเฟ้อ, เศรษฐกิจอังกฤษ