หุ้นไทยปิดเช้าลบ 4.75 จุดตามตลาดตปท. กังวลดอกเบี้ยสหรัฐฯอยู่ระดับสูงนาน-ขาย Big Cap

SET ปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,664.42 จุด ลดลง 4.75 จุด (-0.28%) มูลค่าการซื้อขายราว 33,033.88 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวตาม sentiment ตลาดหุ้นเอเชีย หลังตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปรับตัวลง จากบรรยากาศไม่เอื้อต่อสินทรัพย์เสี่ยง เพราะแนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐฯยังอยู่ในระดับสูงและยาวนาน กดดันตลาดหุ้น และยังมีแรงขายหุ้นใหญ่เข้ามากดดัน หลังผลการดำเนินงานออกมาผิดคาด แนวโน้มบ่ายนี้คาดแกว่งตัวแดนลบต่อ พร้อมให้แนวต้านที่ 1,670 จุด แนวรับแรกที่ 1,660 จุด และแนวรับต่อไปที่ 1,650 จุด

  • SET ปิดช่วงเช้านี้ 1,664.42 จุด ลดลง 4.75 จุด (-0.28%) มูลค่าการซื้อขายราว 33,033.88 ล้านบาท
  • การซื้อขายหุ้นเช้านี้ ดัชนีปรับตัวลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศ ทำระดับสูงสุด 1,668.97 จุด และต่ำสุด 1,660.10 จุด

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าที่ผ่านมาปรับตัวลง ตาม sentiment ของตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ปรับตัวลงตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยบรรยากาศในช่วงนี้ถือว่ายังไม่เอื้อต่อสินทรัพย์เสี่ยง จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯที่อาจจะยังอยู่ในระดับสูงยาวนาน ซึ่งเป็นปัจจัยที่กดดันต่อตลาด ทำให้ยังคงเห็นแรงขายออกมาต่อเนื่อง

ขณะเดียวกันหลังการประกาศผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนไทยที่ออกมาส่วนใหญ่ค่อนข้างผิดไปจากที่ตลาดคาดไว้ ทำให้เป็นปัจจัยกดดันต่อตลาดหุ้นไทยเกิดการพักตัว โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ที่ยังมีแรงขายออกมากดดันดัชนีต่อเนื่อง

แนวโน้มในช่วงบ่ายคาดว่าดัชนียังแกว่งตัวในแดนลบต่อ โดยที่ยังไร้ปัจจัยใหม่เข้ามาส่งผลต่อตลาด และนักลงทุนยังจับตาตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯในสัปดาห์หน้า

โดยให้แนวต้านที่ 1,670 จุด แนวรับแรกที่ 1,660 จุด และแนวรับต่อไปที่ 1,650 จุด

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

BANPU มูลค่าการซื้อขาย 3,231.04 ล้านบาท ปิดที่ 10.90 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,790.08 ล้านบาท ปิดที่ 204.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท

DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,645.92 ล้านบาท ปิดที่ 894.00 บาท ลดลง 28.00 บาท

BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,597.53 ล้านบาท ปิดที่ 163.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท

SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,525.92 ล้านบาท ปิดที่ 102.00 บาท ลดลง 1.50 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ก.พ. 66)

Tags: , ,
Back to Top