รัฐบาลญี่ปุ่นตัดสินใจผ่อนปรนแนวทางสวมหน้ากากอนามัยตั้งแต่ 13 มี.ค.

รัฐบาลญี่ปุ่นตัดสินใจในวันศุกร์ที่ 10 ก.พ.ว่าจะผ่อนปรนแนวทางเรื่องการสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันโรคโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค. ซึ่งรวมถึงการสวมหน้ากากอนามัยบนขนส่งมวลชนและสถาบันการศึกษา ขณะที่นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ แห่งญี่ปุ่นพยายามผ่อนปรนมาตรการจำกัดด้านสุขภาพที่ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคม

ภายใต้นโยบายใหม่ ผู้โดยสารจะได้รับคำแนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยบนรถไฟและรถโดยสารประจำทางในชั่วโมงเร่งด่วนหรือโอกาสอื่น ๆ ที่การขนส่งมวลชนมีความคับคั่งเป็นพิเศษเท่านั้น ขณะเดียวกัน นักเรียนนักศึกษาก็ไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยในระหว่างทำกิจกรรมในโรงเรียน

การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นในช่วงที่รัฐบาลเตรียมปรับลดระดับความรุนแรงของโรคโควิด-19 ให้ลงมาอยู่ในประเภทเดียวกับโรคติดเชื้อทั่วไป เช่น ไข้หวัดตามฤดูกาล โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค.เป็นต้นไป ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งสำคัญในการรับมือกับโรคระบาดที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อช่วงต้นปี 2563

ญี่ปุ่นไม่เคยบังคับให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย แต่ประชาชนพร้อมใจกันสวมหน้ากากอนามัยเป็นประจำทุกวันตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา โดยนายกฯคิชิดะระบุว่า จะปล่อยให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจเรื่องการสวมหน้ากากอนามัยด้วยตนเอง ทั้งการสวมหน้ากากอนามัยในอาคารและกลางแจ้ง

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า แม้นโยบายใหม่นี้จะเปิดทางให้ประชาชนตัดสินใจเรื่องการสวมหน้ากากอนามัยด้วยตนเอง แต่ประชาชนยังคงได้รับคำแนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยในสถานการณ์สำคัญ เช่น เมื่อแสดงอาการของโรคโควิด-19 หรือเดินทางไปยังสถานพยาบาล

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ก.พ. 66)

Tags: , , ,
Back to Top