“ชวน” มองแง่ดีเชื่อศึกซักฟอกพรุ่งนี้องค์ประชุมไม่ล่ม

นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการพิจารณาญัตติอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ในวันที่ 15-16 ก.พ.66 กรณีมีกระแสข่าวการล็อบบี้เพื่อล่มการประชุมว่า ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่ององค์ประชุม เพราะการกำหนดวันอภิปรายเป็นไปตามข้อตกลงของคณะกรรมการประสานงาน (วิป) ทั้ง 2 ฝ่าย โดยญัตติดังกล่าวเสนอมาตั้งแต่เดือน ม.ค.66 และรัฐบาลมีความเห็นว่าพร้อมจะชี้แจงตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.เป็นต้นไป

ขณะนี้มี ส.ส.ที่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้รวม 419 คน เป็นฝ่ายค้าน 186 คน และฝ่ายรัฐบาล 233 คน ซึ่งถือว่ารัฐบาลยังมีเสียงข้างมากพอสมควร และมีองค์ประชุมอยู่ที่ 210 คน

“ยังมองในแง่ดีว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่องค์ประชุมจะไม่ครบ ส่วนการพิจารณากฎหมายที่ไม่เห็นด้วยแล้วไม่อยู่เป็นองค์ประชุมนั้น ผมมองว่าเป็นการหนีปัญหา แต่ในวันพรุ่งนี้รัฐบาลกำหนดวันมาเองก็น่าจะไม่มีปัญหา เชื่อว่าน่าจะครบองค์ประชุม แต่ยอมรับว่าก็ไม่แน่นอน” นายชวน กล่าว

สำหรับการอภิปรายตามมาตรา 152 นั้นเป็นการประชุมเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงและให้ข้อเสนอแนะต่อรัฐบาล ไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ จึงเป็นโอกาสที่รัฐบาลจะได้ชี้แจ้งข้อเท็จจริง ส่วนการอภิปรายนอกเหนือข้อบังคับเป็นหน้าที่ประธานการประชุมจะดูแล

อย่างไรก็ตาม หากเกิดปัญหาองค์ประชุมไม่ครบก็ยังมีเวลาเหลืออีก 1 สัปดาห์ก่อนจะปิดสมัย หากประชุมวันพรุ่งนี้ทำไม่ได้ก็จะมอบให้นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ไปหารือกับวิป 2 ฝ่ายอีกครั้ง แต่ก็ไม่มีเวลาเหลือมากไปกว่านี้แล้ว

ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าสถานการณ์การเมืองขณะนี้ไม่เหมือนสมัยก่อน ที่ก่อนจะสิ้นวาระสภาก็ไม่มีปัญหาการย้ายพรรค ไม่เป็นแบบปัจจุบัน ซึ่งปัจจุบันถือว่าไม่ปกติ มีพรรคการเมืองใหม่เกิดขึ้นหลายพรรค ไม่เคยเกิดการย้ายพรรคแบบนี้มาก่อน บางคนอภิปรายในสภาก็ไม่กล้าประกาศชื่อพรรคเดิม เพราะอาจจะมีการย้ายพรรค แต่ที่สำคัญคือไม่มาประชุมและไม่กดบัตรแสดงตน ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้น ดังนั้นจึงเห็นความไม่พร้อมของการประชุม

“มีหลายคนอยากจะให้ประกาศชื่อสมาชิกที่ไม่เข้าร่วมประชุม ซึ่งก็ไม่ได้ปกปิด หากใครอยากจะมาขอดูตัวเลขก็ดูได้ รวมถึงคู่แข่งขันที่ประสงค์จะแข่งขันในจังหวัดนั้นๆ ก็มาขอดูได้ว่าคู่แข่งประชุมไปกี่ครั้ง เผื่อเอาไว้ใช้ประโยชน์ทางการเมืองได้ว่าคนที่ประชาชนเลือกมามีความรับผิดชอบหรือไม่ ผมก็เตือนสมาชิกหลายคนที่มีความมั่นใจว่า อย่าไปมั่นใจ ประชาชนติดตามข้อมูลอยู่ อย่าไปประมาท ขณะนี้ระบบข้อมูลสามารถเจาะไปได้ลึก และคู่แข่งขันก็ไม่อยู่นิ่ง ชื่อผู้ที่ไม่มาประชุมก็เปิดเผยได้ เอาตัวเลขไปบอกประชาชนก็จะมีผลกระทบต่อคะแนนนิยมได้” นายชวน กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ก.พ. 66)

Tags: , , ,
Back to Top