ซัมซุง-ไฮนิกซ์เผชิญวิกฤต หลังราคาชิปร่วงหนักใน Q4/65

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า อุตสาหกรรมชิปหน่วยความจำกำลังเผชิญอุปสงค์ที่ลดลงเป็นประวัติการณ์ โดยอุปสงค์ชิปหน่วยความจำ 2 ชนิดปรับตัวลดลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาส 4/2565 เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส

เทรนด์ฟอร์ซ (TrendForce) ระบุว่า ราคาเฉลี่ยของ DRAM ชิปหน่วยความจำที่ใช้ในการขับเคลื่อนโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์พีซี ลดลง 34.4% ในไตรมาสที่ 4/2565 ซึ่งแย่กว่าระดับของไตรมาส 3/2565 ที่ลดลง 31.4% ขณะที่ชิปหน่วยความจำ NAND ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักที่ขายให้กับศูนย์ข้อมูลและลูกค้าองค์กร มีอุปสงค์ดีกว่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยชิปหน่วยความจำทั้ง 2 ชนิดปรับตัวลดลงย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2549

ในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 ผู้ผลิตชิปหน่วยความจำส่วนใหญ่ลดการผลิตและชะลอแผนการขยายธุรกิจ เพื่อตอบสนองต่อเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงอย่างรวดเร็ว โดยบริษัทไมครอน เทคโนโลยี (Micron Technology), เอสเค ไฮนิกซ์ อิงค์ (SK Hynix Inc) และ คิอ๊อกเซีย โฮลดิ้ง คอร์ป (Kioxia Holdings Corp) ต่างก็ประกาศมาตรการควบคุมอุปทานส่วนเกิน เพื่อรักษาเสถียรภาพตลาด

อย่างไรก็ตาม ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปหน่วยความจำรายใหญ่ที่สุดของโลก ปฏิเสธที่จะเปลี่ยนแนวทาง โดยยังคงยึดมั่นในแผนการลงทุนเชิงรุกที่จะใช้จ่ายเงินมากกว่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อสร้างศักยภาพเพิ่มเติมในปีนี้

ทั้งนี้ ซัมซุงกำลังวางเดิมพันกับการขยายตัวระยะยาวของผลิตภัณฑ์หน่วยความจำ ซึ่งได้แรงหนุนจากการใช้งานบริการคลาวด์ที่ต้องใช้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลเพิ่มขึ้น รวมถึงยานพาหนะที่เชื่อมต่อกัน (Connected vehicle) และระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ขณะที่ในระหว่างรายผลประกอบการล่าสุด ซัมซุงคาดการณ์ว่าตลาดสมาร์ตโฟนจะหดตัวอีกครั้งในปีนี้ แต่เห็นอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจากอานิสงส์ของผลิตภัณฑ์ AI เช่น แชตจีพีที (ChatGPT)

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ก.พ. 66)

Tags: , ,
Back to Top