CONSENSUS: ADVANC ชิงจังหวะเล่นเกมคุณภาพเบียดบริษัทใหม่ควบรวม TRUE-DTAC

บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หรือ เอไอเอส ขอหยุดเล่นสงครามราคา งัดทีเด็ดชูโครงข่ายคุณภาพใช้เป็นอาวุธต่อกรกับบริษัทใหม่ที่เกิดจากการควบรวมกิจการ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) และ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) งานนี้คงกระพริบตาไม่ได้ เพราะทุกตลาดไม่ว่ามือถือ เน็ตบ้าน ลงมาแข่งแบบเปิดหน้า แบบไม่มีใครยอมใคร ADVANC เลือกเล่นเกมคุณภาพจัดหนักทุก Section อาศัยจังหวะฝ่ายตรงข้ามติดเงื่อนไขมาตรการเยียวยาของ กสทช.รุกคืบฉกฉวยลูกค้า

นายพิสุทธิ์ งามวิจิตรวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า จากการประชุมนักวิเคราะห์ร่วมกับผู้บริหารเอไอเอสเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ส่งสัญญาณว่าจะหยุดเล่นสงครามราคา และจะลงทุนโครงข่ายอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ TRUE และ DTAC ที่ควบรวมกิจการและรวมโครงข่าย ยังอาจเผชิญกับประเด็นด้านเทคนิคส่งผลกระทบต่อการให้บริการ เป็นจังหวะให้ลูกค้า DTAC และ TRUE มีโอกาสย้ายค่ายมาเอไอเอส เพราะยังสู้เรื่องโครงข่ายที่มีคุณภาพไม่ได้ ซึ่งจะเห็นชัดๆในไตรมาส 2/66

นอกจากนี้ยังมีมาตรการเยียวยาจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) อาทิ การปรับราคาลง 12% กระทบทั้ง TRUE และ DTAC ขณะที่ เอไอเอสปรับราคาขึ้น

“ถ้าใช้ TRUE และ DTAC แล้วสัญญาณแย่ เอไอเอสก็จะฉวยจังหวะนี้ ก็ต้องรอดูไตรมาส 2 คิดว่าปลายไตรมาส 1 ก็น่าจะเริ่มเห็น”

รวมร่าง TTTBB ต่อกรสู้บ.ใหม่ ทรู-ดีแทค แข่งทุกตลาด

ส่วนดีลซื้อ บมจ.ทริปเปิลที บรอดแบนด์ (TTTBB) ทางผู้บริหารคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 2/66 โดยขณะนี้ทางกสทช.ได้ตั้ง FA ขึ้นมาศึกษาคาดว่าจะใช้เวลา 60-90 วัน หรือประมาณเดือน เม.ย.-ต้น พ.ค. และคณะกรรมการ กสทช.จะใช้เวลาพิจารณาราว 2 สัปดาห์ หรือไม่น่าเกินกลางเดือนพ.ค.66

การได้ TTTBB จะทำให้ ADVANC สามารถต่อกรกับบริษัทใหม่หลัง TRUE และ DTAC ควบรวมกิจการเสร็จสิ้นก็จะมีผู้ใช้มือถือ 50 ล้านราย ส่วน ADVANC มีลูกค้ากว่า 40 ล้านราย ขณะที่ขาธุรกิจเน็ตบ้าน เอไอเอส มี 2 ล้านราย เมื่อรวมกับ TTTBB ที่มี 2 ล้านราย ก็จะมีลูกค้ารวมกัน 4 ล้านราย ส่วน TRUE มีลูกค้าเน็ตบ้านอันดับหนึ่ง 4 ล้านราย

อย่างไรก็ตาม มองว่า ADVANC ยังมีความได้เปรียบอยู่มาก จะเห็นได้ว่าแม้ว่ารายได้ของบริษัทใหม่ของ TRUE และ DTAC จะสูสีกับ ADVANC แต่เมื่อพูดถึงกำไร ยังทิ้งห่างกันมาก โดย ADVANC มีกำไรราว 3 หมื่นล้านบาท แต่ TRUE รวม DTAC แล้วอาจไม่เห็นกำไร หรือมีกำไรเล็กน้อย

นอกจากความสามารถการทำกำไรของ ADVANC จะเหนือกว่าแล้ว ฐานะการเงินก็แข็งแกร่งกว่ามาก โดยอัตราส่วนหนี้สินต่อ EBITDA อยู่ที่ 1.5 เท่า ขณะที่ บริษัทใหม่ TRUE และ DTAC มีหนี้สินต่อ EBITDA ถึง 3 เท่า

สำหรับประเด็นการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) นั้น นายพิสุทธิ์ มองว่า ปัจจัยที่ทำให้ดีลตั้ง กองทุน Infra Fund ยังไม่เกิดในเร็ว ๆ นี้ คือ 1. เงินที่ได้จากการจัดตั้งกองทุนจะใช้ทำอะไร จะลงทุน หรือจ่ายเงินปันผล 2.ต้นทุนของการออกกองทุนสูงกว่าต้นทุนเงินกู้สถาบันการเงินที่ปัจจุบันอยู่ที่ราว 3-4% และ 3.หาก ADVANC จัดตั้งกองทุน Infra Fund จะทำให้ GULF ได้ประโยชน์น้อยลงไป เพราะ GULF ถือหุ้นใน INTUCH 46% แต่แปลงมาถือใน ADVANC เพียง 18% นอกจากว่า GULF จะเข้ามาถือหุ้นใน ADVANC โดยตรงเองก็อาจจะเห็นดีลนี้เกิดเร็วขึ้น

อย่างไรก็ตาม การจัดตั้งกองทุน Infra Fund คาดว่าน่าจะดำเนินการอย่างเร็วในปลายปี 66 หรือต้นปี 67 โดยต้องดำเนินการซื้อ TTTBB และ JASIF ให้จบก่อน จึงจะได้รู้ว่ามีทรัพย์สินมีอยู่อย่างไร

อย่างไรก็ดี การจัดตั้ง กองทุน Infra Fund จะเป็นการปลดล็อกมูลค่าหุ้น ADVANC และจะเป็นการสะท้อนราคาหุ้นที่ บล.กสิกรไทยคาดว่าจะมีมูลค่าหุ้นเพิ่มอีก 20-25 บาท/หุ้น ทั้งนี้ แนะนำ”ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 233.85 บาท

Virtual Banking รอเวลา

ด้านบล.ฟิลลิป (ประเทศไทย มอง ADVANC ธุรกิจหลักตั้งเป้าปีนี้เติบโต 3-5% ส่วน Fixed Broadband ยังมอง Double Digits ปัจจุบันธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่มี Subscriber 45.4 ล้าน (Pre-Paid และ Post-Paid เป็น 33.4 และ 12.0 ล้าน User ตามลำดับ) ผู้บริหารตั้งเป้าปี 66 ส่วนธุรกิจหลักนี้เติบโต 3-5% โดยมีแนวทางขยายการใช้งาน 5G ให้เพิ่มขึ้นจากปี 65 ที่ 6.8 ล้านราย สู่สิ้นปี 66 ที่ 12 ล้านราย ขณะที่ยังคาดหวัง Fixed Broadband ที่ไม่รวม TTTBB จะเติบโต Double Digits y-y ต่อในปีนี้

ปัจจุบันบริษัทมีความพยายามทั้ง 1)ขยายธุรกิจเดิมให้กว้างออกไป เช่นการประยุกต์ใช้ 5G ระดับ Enterprise เพื่อช่วยบริหารจัดการภายในองค์กร เป็นต้น 2)สร้างพันธมิตรและมองเป้าเปลี่ยนผ่านสู่การเป็น Tech-Co ภายใน 3 ปี โดยมีโครงการใหม่ทั้ง Data Center ร่วมกับ Singtel และ GULF

ส่วนแผนงานอนาคตอยู่ระหว่างศึกษา Virtual Banking ร่วมกับ KTB ส่วนด้านการขายเสาสัญญาณเข้าเป็น Infrastructure Fund (AISIF) ทางผู้บริหารยังไม่ตัดแผนงานดังกล่าวทิ้ง เพียงแต่อยู่ระหว่างศึกษา และรอเวลาที่เหมาะสม

บล.ฟิลลิป มองเห็นถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ช่วยให้ทางบริษัทสามารถขยับราคาแพ็กเกจให้ ARPU สูงขึ้นได้ แต่ไม่เพียงพอที่จะเห็นธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่อิ่มตัวแล้วจะเติบโต 3-5% ด้าน Fixed Broadband ยังมองเติบโตแบบ Double Digits (y-y) ต่อไป แต่คาดดีล TTTBB อาจล่าช้าและเสร็จสิ้นในไตรมาส 2/66 อย่างไรก็ตาม มุมมองต่อบริษัทยังเป็นเชิงบวก จากความพยายามต่อยอดธุรกิจเดิม และมองหาธุรกิจใหม่เสมอ ทางฝ่ายวางราคาเป้าหมายปี 66 ที่ 240 บาท มี Up-Side = 14.83%

ทั้งนี้ ราคาหุ้น ADVANC ปิดที่ 209 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้า

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ก.พ. 66)

Tags: , , , , , , , , ,
Back to Top