SELIC ยื่นไฟลิ่ง “พีเอ็มซี เลเบิล แมททีเรียลส์” ขาย IPO 115.715 ล้านหุ้น-เข้า mai

บมจ.ซีลิค คอร์พ (SELIC) ส่งบริษัทย่อย คือ บมจ.พีเอ็มซี เลเบิล แมททีเรียลส์ (PMC) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 115,715,000 หุ้น หรือคิดเป็น 30% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO

และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) หมวดธุรกิจ (Sector) สินค้าอุตสาหกรรม (INDUS) โดยมี บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

วัตถุประสงค์การใช้เงิน เพื่อลงทุนขยายธุรกิจของบริษัทฯ ซึ่งรวมถึงการขยายศูนย์กระจายสินค้าในประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน เช่น ประเทศอินโดนีเซีย และเวียดนาม, ลงทุนขยายกำลังการผลิตและชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้อง, ชำระคืนเงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงิน รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการจัดซื้อสินค้า และเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

PMC เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สติ๊กเกอร์ (Sticker) หรือฉลากกาว (Self-Adhesive Label) รายใหญ่ของประเทศ โดยจำหน่ายสติ๊กเกอร์เปล่า 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ สติ๊กเกอร์กระดาษ สติ๊กเกอร์ฟิล์ม และสติ๊กเกอร์ชนิดพิเศษอื่นๆ โดยลูกค้าอยู่ในกลุ่มธุรกิจโรงพิมพ์ฉลากสินค้า (Printers) และผู้ผลิตฉลากสินค้า (Converters) เป็นหลัก เพื่อนำไปออกแบบ จัดพิมพ์ลวดลายและตัดให้ได้รูปทรง เป็นฉลากสินค้าให้แก่ลูกค้าเจ้าของผลิตภัณฑ์หรือ End Users อีกทอดหนึ่ง

บริษัทจำหน่ายสติ๊กเกอร์ให้แก่ลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศผ่านบริษัทเอง และ 2 บริษัทย่อย คือ PMC Label Materials PTE., Ltd. (PMCS) ในสิงคโปร์ และ PMC Label Materials (Malaysia) SDN. BHD. (PMCM) ในมาเลเซีย ปัจจุบันบริษัทฯ มีสัดส่วนการจำหน่ายสินค้าในประเทศ 60% ส่วนอีก 40% จำหน่ายให้แก่ลูกค้ากว่า 15 ประเทศทั่วโลก โดยมีฐานลูกค้าหลักในไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย และเวียดนาม

ปัจจุบันบริษัทมีโรงงานผลิตสินค้า 1 แห่ง ตั้งอยู่บนพื้นที่ 13 ไร่ ในนิคมอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์และการพิมพ์ จังหวัดสมุทรสาคร มีกำลังการผลิตสติ๊กเกอร์ 75 ล้านตารางเมตรต่อปี นอกจากนี้ เพื่อรองรับความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้นจากลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ บริษัทอยู่ระหว่างการลงทุนขยายกำลังการผลิตเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตสติ๊กเกอร์อีก 110 ล้านตารางเมตรต่อปี มูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 190 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการนำเข้าเครื่องจักรและอุปกรณ์และคาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 1/67 เป็นต้นไป หลังจากสายการผลิตใหม่ติดตั้งแล้วเสร็จ บริษัทจะมีกำลังการผลิตสติ๊กเกอร์รวมทั้งสิ้น 185 ล้านตารางเมตรต่อปี ซึ่งถือเป็นกำลังการผลิตที่ใหญ่ที่สุด 3 ลำดับแรกของผู้ประกอบการในประเทศไทย

บริษัทวางเป้าหมายก้าวสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจผลิตและจำหน่ายสติ๊กเกอร์เปล่า (Sticker Label) ในภูมิภาคอาเซียน โดยในปีที่ผ่านมา นอกจากลงทุนขยายกำลังการผลิตและเปลี่ยนเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น บริษัทยังมีแผนขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้า โดยการลงทุนเพิ่มศูนย์กระจายสินค้าในอาเซียน เช่น อินโดนีเซียและเวียดนาม ซึ่งจะมีส่วนช่วยดึงดูดฐานลูกค้าใหม่กลุ่มผู้ผลิตฉลากสินค้าข้ามชาติชั้นนำ (Global Converters) ที่ส่วนใหญ่จะรับงานผลิตฉลากสินค้าให้แก่เจ้าของสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ในภูมิภาค

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 เม.ย. 66)

Tags: , , ,
Back to Top