เลือกตั้ง’66: “อนุทิน” เดินสายหาเสียงภูเก็ต-พังงา ชูยกระดับเมืองท่องเที่ยว-สุขภาพ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล แคนดิเดทนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครหาเสียง จ.ภูเก็ต พร้อมกล่าวว่า ในการเลือกตั้งรอบที่แล้ว พรรคปักธงที่จังหวัดใต้ได้หลายจังหวัด มารอบนี้ขอตอกเสาเข็มเพิ่มที่ภูเก็ต โดยที่ผ่านมาพื้นที่ภาคใต้ในการดูแลของกระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งมีรัฐมนตรีมาจากพรรคภูมิใจไทย สำหรับ จ.ภูเก็ตจะเพิ่มโอกาสด้วยการพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หรือ Medical Hub

“การเลือกตั้งปี 62 ไม่มีใครคิดว่าพรรคภูมิใจไทยจะมีส.ส. จากภาคใต้ได้กว่า 10 ที่นั่ง แต่ที่สุดแล้วมันก็เกิดขึ้น เพราะความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน ตรงส่วนนี้ตระหนักอยู่ในหัวคิดของพรรคภูมิใจไทยตลอดเวลาว่าจะต้องตอบแทนความไว้เนื้อเชื่อใจที่ประชาชนมอบให้ ที่ผ่านมา เราพัฒนาถนนหนทางให้ประชาชนเดินทางได้สะดวกรวดเร็วขึ้น ไปจนถึงขยายบริการด้านสาธารณสุข ล่าสุดเราประสบความสำเร็จในการผลักดันสะพานเชื่อมพัทลุง-สงขลา และสะพานข้ามเกาะลันตา จ.กระบี่ อนาคต เราจะเดินหน้าโครงการแลนด์บริดจ์ เชื่อมต่ออ่าวไทยกับทะเลอันดามัน ผ่านจังหวัดชุมพร-ระนอง”นายอนุทิน กล่าว

จากนั้นได้เดินทางไปจ.พังงา พร้อมชูนโยบายงบท่องเที่ยว 100 ล้านบาท ประกาศพายกระดับสู่เมืองสุขภาพ เชื่อมต่อภูเก็ต-กระบี่ พร้อมมั่นใจได้อานิสงส์จากโครงการ “แลนด์บริดจ์”

นายอนุทิน กล่าวว่า การทำให้พังงา เป็นคลัสเตอร์ด้านการท่องเที่ยวไปกับภูเก็ต กระบี่ มาเที่ยวภูเก็ต ต้องไปพังงาด้วย ที่สำคัญ ต้องทำให้จังหวัดที่กล่าวมา เป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

“ภูเก็ต ไปได้ไกลแค่ไหน กระบี่ไปได้ไกลแค่ไหน พังงา ก็ต้องไปได้ไกล ไม่แพ้กัน เรามีนโยบายงบท่องเที่ยว จังหวัดละ 100 ล้านบาทด้วย ตรงส่วนนี้ จะช่วยพัฒนาสาธารณูปโภคที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวในจังหวัด อะไรที่ชำรุดทรุดโทรม ต้องได้รับการแก้ไข รับรองว่า ทั้งแลนด์บริดจ์ ทั้งเรื่องการท่องเที่ยว จะสร้างเม็ดเงินมหาศาลให้พังงา เงินมา งานมา ชาวประชา มีความสุข ที่ผมพูดมา ไม่ได้ฝัน แต่ผมพร้อมจะทำ สิ่งที่ผมรอคือโอกาสของประชาชน ผมอยากเห็นท่านกินดี อยู่ดี พื้นที่ ได้รับการพัฒนา ถ้าเลือกภูมิใจไทย เข้ามาแบบยกจังหวัด ท่านได้เห็นการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรมแน่นอน” นายอนุทิน กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 เม.ย. 66)

Tags: , , ,
Back to Top