ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าลบเป็นส่วนใหญ่ นักลงทุนวิตกปัญหาแบงก์สหรัฐ

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าลบเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ หลังเกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาภาคธนาคารในสหรัฐอีกระลอก ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐที่ดิ่งลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย และผลประกอบการที่ย่ำแย่ของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงบริษัทยูไนเต็ด พาร์เซล เซอร์วิส (ยูพีเอส)

ทั้งนี้ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 19,733.95 จุด เพิ่มขึ้น 116.07 จุด หรือ +0.59% ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,254.69 จุด ลดลง 10.18 จุด หรือ -0.31% และดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าที่ระดับ 28,469.08 จุด ลดลง 150.99 จุด หรือ -0.53%

หุ้นธนาคารเฟิร์สต์ รีพับลิกทรุดตัวลงกว่า 49% เมื่อวันอังคาร (25 เม.ย.) หลังเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสครั้งล่าสุด พร้อมระบุเมื่อวันจันทร์ (24 เม.ย.) ว่า ยอดเงินฝากลดลง 40% แตะที่ 1.045 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 1/2566 แต่จากนั้นก็ราคาหุ้นเริ่มมีเสถียรภาพ

บริษัทยูพีเอสเปิดเผยกำไรและรายได้ที่ต่ำกว่าคาดในไตรมาส 1/2566 และยังได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปีงบการเงิน 2566 ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า กำไรและรายได้ที่ต่ำกว่าคาดของยูพีเอสเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ

ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อไตรมาส 1/2566 ของออสเตรเลีย ซึ่งชะลอตัวลงสู่ 7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ลดลงจากระดับ 7.8% ในไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 23 ปี

ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลดลงเมื่อวันอังคาร โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลดลง 1.02% ส่วนดัชนี S&P500 ปิดลบ 1.58% และดัชนี Nasdaq Composite ร่วงมากที่สุดที่ลบ 1.98%

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 เม.ย. 66)

Tags: ,
Back to Top