เงินบาทเปิด 34.13 แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับส่งออกดีเกินคาด-เงินไหลเข้าหนุน

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 34.13 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจาก ปิดตลาดช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 34.21 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากตัวเลขภาวะการค้าต่างประเทศในเดือนมี.ค.66 ที่ กระทรวงพาณิชย์ประกาศออกมาดีกว่าคาด โดยยอดส่งออกติดลบน้อยลง และกลับมาเกินดุลการค้า 1 พันล้านดอลลาร์ จากที่คาดการณ์ไว้ว่า จะขาดดุลการค้า 2 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ยังมีกระแสเงินทุนต่างประเทศ (Flow) ไหลเข้ามาลงทุนในตลาดพันธบัตรและตลาดหุ้น ราว 5 พันล้านบาท

“บาทแข็งค่าหลังได้รับแรงหนุนจากตัวเลขส่งออกที่ดีเกินคาด ติดลบน้อยลงและกลับมาเกินดุลแทนที่จะขาดดุล และมี Flow ไหลเข้ามาราว 5 พันล้านบาท ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับยูโร แต่แข็งค่าเมื่อเทียบกับเยน”

นักบริหารเงิน กล่าว นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 34.00 – 34.30 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (26 เม.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.72496% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.85921%

ปัจจัยสำคัญ

– เงินเยนอยู่ที่ระดับ 133.59 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 133.41 เยน/ดอลลาร์

– เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1044 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1042 ดอลลาร์/ยูโร

– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.273 บาท/ดอลลาร์

– รมว.คลัง เปิดเผยว่า การปรับลดประมาณการเศรษฐกิจของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เหลือ 3.6% เป็นไป ตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และการส่งออกของไทยที่ลดลงติดลบ 0.5% แต่มีภาคการท่องเที่ยวและบริการมาช่วยพยุงขับเคลื่อน เศรษฐกิจให้ฟื้นตัว โดยคาดการณ์ช่วงครึ่งปีหลัง ส่งออกจะเริ่มดีขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคต่างประเทศเริ่มกลับมาซื้อสินค้าจากไทยเพิ่มขึ้น

– “บล.หยวนต้า” มองแนวโน้มส่งออกไทยครึ่งหลังฟื้น แม้ตัวเลขยังติดลบแต่ไม่น่าห่วง หลังส่งออก เดือนมี.ค.66 ลดลง 4.2% แต่ดีกว่าตลาดคาดมีนัยสำคัญ เตือนระวังเศรษฐกิจถดถอย

– ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (26 เม. ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1 ของสหรัฐในวันนี้ รวมทั้งดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันศุกร์

– สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (26 เม.ย.) เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัย ฉุดสัญญาทองคำร่วงหลุดจากระดับ 2,000 ดอลลาร์

– ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐวันนี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2566 (ประมาณการเบื้องต้น) และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales) เดือนมี.ค.

– ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 1.1% ในไตรมาส 1/2566 ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 2.5%

สำหรับในปี 2565 เศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 1.6% ในไตรมาส 1 และ 0.6% ในไตรมาส 2 ทำให้สหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยทาง เทคนิค ก่อนที่มีการขยายตัว 3.2% และ 2.9% ในไตรมาส 3 และ 4 ตามลำดับ

– นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันศุกร์ โดยดัชนี PCE เป็น มาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและ บริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

– นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และวิกฤตการณ์ในภาคธนาคารของสหรัฐ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับ ตาการประชุมนโยบายการเงินวันที่ 27-28 เม.ย.ภายใต้ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) พร้อมคาดการณ์เศรษฐกิจรายไตรมาส

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 เม.ย. 66)

Tags: , ,
Back to Top