“วอร์เรน บัฟเฟตต์” ชี้การแห่ถอนเงินและการผิดชำระหนี้ของสหรัฐเป็นเรื่องอันตราย

นายวอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีนักลงทุนผู้เป็นเจ้าของบริษัท เบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์ อิงค์ออกโรงเตือนว่า การที่ประชาชนวิตกกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเงินฝากในธนาคารและความเป็นไปได้ที่จะเกิดการผิดนัดชำระหนี้ของรัฐบาลสหรัฐถือเป็นอันตรายใหญ่หลวง

นายบัฟเฟตต์ระบุในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปีในวันเสาร์ (6 พ.ค.) ว่า หากรัฐบาลสหรัฐประสบความล้มเหลวในการรับประกันเงินฝากของผู้ที่ฝากเงินกับธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) หลัง SVB ล้มแบบฉับพลันในเดือนมี.ค. จะก่อให้เกิดผลกระทบร้ายแรง

นายบัฟเฟตต์ระบุว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลไม่น่าจะออกมาแถลงว่า รัฐบาลจะไม่รับประกันเงินฝากทั้งหมดของประชาชน เพราะจะทำให้เกิดภาวะแห่ถอนเงินขึ้นในทุกธนาคารของประเทศและกระทบต่อระบบธนาคารโลก

“กรณีดังกล่าวจะก่อให้เกิดหายนะ นั่นเป็นเหตุผลให้รัฐบาลสหรัฐออกมารับประกันเงินฝาก” นายบัฟเฟตต์กล่าว

ปกติแล้วบรรษัทรับประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FDIC) รับประกันเงินฝากสูงสุด 250,000 ดอลลาร์ แต่เมื่อธนาคาร SVB และซิกเนเจอร์ แบงก์ (Signature Bank) ล้ม หลังเผชิญภาวะแห่ถอนเงินครั้งใหญ่ FDIC ก็ออกมาประกาศรับประกันเงินฝากทั้งหมดของธนาคารทั้งสองแห่ง

ขณะเดียวกันนายบัฟเฟตต์ส่งสัญญาณว่า เขาไม่วิตกกังวลว่าสภาคองเกรสจะไม่อนุมัติการเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาล จนนำไปสู่การผิดนัดชำระหนี้

เพดานหนี้คือจำนวนเงินทั้งหมดที่รัฐบาลสหรัฐได้รับอนุญาตให้ทำการกู้ยืมเพื่อให้รัฐบาลสามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย ซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสวัสดิการด้านประกันสังคมและด้านสุขภาพ, ดอกเบี้ยตราสารหนี้ของรัฐบาล และการใช้จ่ายอื่น ๆ

ก่อนหน้านี้สำนักงานงบประมาณแห่งสภาคองเกรสสหรัฐ (CBO) เตือนว่า กระทรวงการคลังสหรัฐอาจจะไม่สามารถชำระหนี้ทั้งหมดได้ในช่วงเดือนก.ค.-ก.ย.ปีนี้ นอกเสียจากว่ากระทรวงจะสามารถตกลงกับสภาคองเกรสเพื่ออนุมัติการปรับเพิ่มเพดานหนี้หรือระงับเพดานหนี้ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 พ.ค. 66)

Tags: , , ,
Back to Top