ทิสโก้เปิดกอง US Nasdaq กระจายลงทุนเทคฯชั้นนำรับเฟดหยุดขึ้นดอกเบี้ยขาย IPO 9-17 พ.ค.

นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการ บลจ. ทิสโก้ เปิดเผยว่า การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เมื่อวันที่ 5 พ.ค.66 มีมติขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามคาด ซึ่งศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) มองว่าในช่วงครึ่งปีหลังเฟดจะเริ่มคงอัตราดอกเบี้ย จังหวะนี้ บลจ.ทิสโก้มองว่าเหมาะอย่างยิ่งที่จะเข้าลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีที่จะได้รับประโยชน์จากต้นทุนการเงินที่ดีขึ้น ประกอบกับปัจจุบันดัชนี NASDAQ มีอัตราส่วนราคาตลาดต่อกำไรสุทธิ (P/E) อยู่ในระดับ 24 เท่า ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย 5 ปี และหุ้นกลุ่มนี้เป็นหุ้นที่จัดอยู่ในกลุ่มเมกะเทรนด์ของโลกที่จะแทรกซึมอยู่ในชีวิตประจำวันของมนุษย์ และเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของภาคธุรกิจ ทำให้รายได้และกำไรของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีมีโอกาสเติบโตสูงตามความต้องการใช้งานของผู้บริโภค

บลจ.ทิสโก้ จึงเปิดเสนอขาย กองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส แนสแดค อิควิตี้ ชนิดหน่วยลงทุนทั่วไป (TNASDAQ-A) และกองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส แนสแดค อิควิตี้ ชนิดหน่วยลงทุนเพื่อการออม (TNASDAQ-SSF) ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) เน้นลงทุนใน Invesco QQQ Trust, Series 1 ที่มีวัตถุประสงค์ในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี Nasdaq-100 ซึ่งเป็นดัชนีที่ประกอบด้วยบริษัทขนาดใหญ่ที่ไม่ใช่สถาบันการเงินที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงที่สุด 100 อันดับแรกที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แนสแดค (Nasdaq) ประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) 9 – 17 พฤษภาคม 2566 มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท

นายสาห์รัช กล่าวอีกว่า การลงทุนในดัชนี Nasdaq-100 นอกจากจะได้ลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีชั้นนำ เช่น Microsoft, Apple, Amazon, Google และ NVIDIA แล้ว ยังได้กระจายการลงทุนไปยังธุรกิจอื่น ๆ เช่น หุ้นกลุ่มสื่อสาร (Communication) กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (Consumer Cyclical) เช่น Costco Wholesale Corporation ธุรกิจห้างค้าส่งในรูปแบบโกดัง Starbucks ธุรกิจร้านกาแฟชั้นนำของโลก และ Pepsi ผู้ผลิตเครื่องดื่มอัดลม เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดล้วนแต่เป็นธุรกิจแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ที่ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นเช่นไร แต่ธุรกิจเหล่านี้ก็ยังคงมีรายได้ที่เติบโตตามความต้องการใช้ของผู้บริโภค

นอกจากนี้ ความโดดเด่นของดัชนี Nasdaq คือ ค่อนข้างมีความผันผวนในระยะสั้น และมีโอกาสเติบโตสูงในระยะยาวตามรายได้และบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในดัชนี ดังนั้น จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการเก็งกำไรและมีกลยุทธ์การลงทุนในระยะสั้น พร้อมทั้งยังเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในระยะยาวด้วย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 พ.ค. 66)

Tags: , , , , ,
Back to Top