หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้ารีบาวด์หลังร่วงแรง ราคาน้ำมันขึ้นหนุนกลุ่มพลังงาน

นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้ลุ้นรีบาวด์หลังปรับตัวลงแรงเมื่อวานจากความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาลและนโยบายแกนนำพรรคก้าวไกลกระทบต่อหุ้นใหญ่บางตัว แต่ตลาดได้ตอบรับไปแล้ว ประกอบกับวันนี้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นมาหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานและดัชนี แม้ยังไร้ปัจจัยใหม่ โดยให้แนวต้าน 1,550-1,560 จุด แนวรับ 1,520-1,530 จุด

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าดัชนีมีโอกาสรีบาวด์ หลังจากเมื่อวานปรับตัวลงมาแรง แม้ว่าได้ทราบผลการเลือกตั้งออกมาและการออกมาประกาศการเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลของแกนนำพรรคก้าวไกล และพรรคฝ่ายค้านเดิม แต่ตลาดยังมีความกังวลในเรื่องอุปสรรคในการจัดตั้งรัฐบาลอยู่บ้าง รวมถึงนโยบายของพรรคก้าวไกลทื่กระทบต่อหุ้นใหญ่บางตัว อย่างไรก็ตามตลาดได้ตอบรับไปค่อนข้างมากแล้วเมื่อวานนี้

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบมีการปรับตัวขึ้นมา ทำให้อาจจะเป็นแรงหนุนต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน และช่วยดันดัชนีได้ แต่ยังไม่มีปัจจัยใหม่ที่จะเข้ามาช่วยหนุนตลาดอย่างมีนัยสำคัญ และยังต้องติดตามการเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงปัจจัยภายนอกในการเจรจาขยายเพดานหนี้สาธารณะของสหรัฐ

โดยให้แนวต้าน 1,550-1,560 จุด แนวรับ 1,520-1,530 จุด

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (15 พ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,348.60 จุด เพิ่มขึ้น 47.98 จุด หรือ +0.14%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,136.28 จุด เพิ่มขึ้น 12.20 จุด หรือ +0.30% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,365.21 จุด เพิ่มขึ้น 80.47 จุด หรือ +0.66%
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 29,838.01 จุด เพิ่มขึ้น 211.67 จุด หรือ +0.71%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,183.28 จุด เพิ่มขึ้น 212.15 จุด หรือ +1.06% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,310.16 จุด ลดลง 0.58 จุด หรือ -0.02%
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (15 พ.ค.66) 1,541.38 จุด ลดลง 19.97 จุด (-1.28%) มูลค่าการซื้อขาย 68,382.81 ล้านบาท
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 783.67 ล้านบาท (15 พ.ค.66)
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. (15 พ.ค.66) เพิ่มขึ้น 1.07 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 71.11 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (15 พ.ค.66) อยู่ที่ 4.35 เหรียญ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 33.72 แข็งค่าเล็กน้อย ตลาดจับตาการหารือเพดานหนี้สหรัฐคืนนี้
  • “พิธา” แถลงชัยชนะ ประกาศจัดตั้งรัฐบาลก้าวไกล ผนึก 6 พรรค “309 เสียง” ปิดช่องอภินิหารเสียงข้างน้อย มั่นใจ ส.ว.ไม่กล้าฝืน ฉันทามติประชาชน ด้าน “เพื่อไทย” ประกาศจุดยืน ไม่ตั้งรัฐบาลแข่ง 2 ฝ่ายตั้งทีมเจรจาเงื่อนไขเอ็มโอยู “แพทองธาร” พร้อมหนุนนายกฯพิธา ขณะที่ “เกมสภาสูง” จับตาอภินิหาร ส.ว. สมาชิกโยน “ก้าวไกล” หา 376 เสียงเอง
  • ภาคเอกชน เสนอโจทย์ใหญ่รัฐบาลใหม่ “สมโภชน์ อาหุนัย” แนะแก้ปมสัญญาซื้อไฟล้นระบบ เปิดทางรายใหม่มาผลิตไฟฟ้า “ตลาดดอทคอม” หนุนรัฐเร่งดันดิจิทัลแก้ปัญหาประเทศ “ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์” หวังตั้งรัฐบาลราบรื่น เสนอฟังความเห็นเอกชนฟื้นเศรษฐกิจ หนุนแก้กฎหมายเปิดทางต่างชาติซื้อที่อยู่อาศัย “หอการค้า” ชี้ก้าวไกลเป็นคนรุ่นใหม่ ขอตั้งรัฐบาลใหม่เร็ว มีเสถียรภาพ
  • สศช. เผยจีดีพีไตรมาสแรกขยายตัวเพิ่มขึ้น 2.7% คงเป้าทั้งปี 66 ที่ 2.7-3.7% ได้แรงหนุนจากท่องเที่ยว การบริโภค การลงทุน ส่วนเรื่องเร่งด่วนรัฐบาลใหม่ ต้องเร่งเบิกจ่าย เร่งลงทุน ปั๊มส่งออก ดึงท่องเที่ยว แก้ปัญหาปากท้อง ระบุงบประมาณปี 67 เห็นแววล่าช้า หลังต้องรอรัฐบาลใหม่ ชี้รื้อได้ แต่ต้องคำนึงถึงวินัยการเงินการคลัง

*หุ้นเด่นวันนี้

  • CPN (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อเก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 81.00 บาท) กำไรสุทธิ ไตรมาส 1/66 เพิ่มขึ้น QoQ, YoY อยู่ที่ 3.3 พันล้านบาท มีปัจจัยหนุนจากส่วนลดค่าเช่าลดลงกลับมาที่ระดับก่อนเกิด Covid ด้านธุรกิจโรงแรมเติบโตต่อเนื่องจากช่วง High season รวมถึงค่าใช้จ่ายลดลงตามฤดูกาล ส่วนแนวโน้มไตรมาส 2/66 คาดกำไรยังมีโมเมนตัมเติบโต YoY จากเม็ดเงินจับจ่ายใช้สอยช่วงเทศกาล และรับรู้โครงการ Marche ทองหล่อเต็มไตรมาส สำหรับแนวโน้มปี 66 ตลาดคาดกำไรอยู่ที่ 1.26 หมื่นล้านบาท +17%YoY มีแผนการขยายศูนย์การค้าต่อเนื่อง โดย Central Westville ราชพฤกษ์จะเสร็จใน 4Q66 และโครงการพัฒนาอสังหาฯ ที่รอโอนในช่วง 2H66
  • SCB (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้า 160 บาท มี Sentiment แนวโน้มไตรมาส 2/66 ยังโตต่อเนื่องจาก NIM ที่เพิ่มขึ้นตามการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายของแบงก์ชาติ ส่วนการตั้งสำรองหนี้ฯ คาดว่าจะปรับลงสู่ระดับปกติที่ระดับ 7-8 พันล้านบาทจาก 9,900 ในไตรมาส 1/66
  • AOT (เมย์แบงก์)เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 84 บาท คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 66 ยังคงขยายตัวเด่น ตามทิศทางการท่องเที่ยวไทยที่ปรับขึ้นต่อเนื่อง โดยประเมินนักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้ที่ระดับ 28 ล้านคน ผสานกับการหมดมาตรการเยียวยาในสิ้นเดือนมีนาคม จะหนุนรายได้ เพิ่มสูงขึ้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 พ.ค. 66)

Tags: , , ,
Back to Top