หุ้นไทยปิดเช้าบวก 6.72 จุด คลายกังวลผลกระทบนโยบายขึ้นค่าแรง-รอลุ้นขยายเพดานหนี้สหรัฐ

SET ปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,541.56 จุด เพิ่มขึ้น 6.72 จุด (+0.44%) มูลค่าการซื้อขาย 22,072 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าแกว่งตัวขึ้นในกรอบแคบๆ สวนทางตลาดหุ้นเอเชีย หลังคลายกังวลปัจจัยการเมืองลงบ้าง โดยวานนี้หัวหน้าพรรคแกนนำรัฐบาลเข้าพูดคุยกับ ส.อ.ท. โดยเฉพาะประเด็นค่าแรงที่อาจกระทบต่อภาคธุรกิจ แม้ปัจจัยภายนอกยังมีความไม่ชัดเจนจากการขยายเพดานหนี้สหรัฐที่ยังไม่ได้ข้อสรุป แนวโน้มช่วงบ่ายคาดแกว่งกรอบแคบ ให้แนวต้าน 1,545 จุด แนวรับ 1,530 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ 1,541.56 จุด เพิ่มขึ้น 6.72 จุด (+0.44%) มูลค่าการซื้อขาย 22,072 ล้านบาท

การซื้อขายช่วงเช้า ดัชนีแกว่งเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยทำระดับสูงสุด 1,542.26 จุด และต่ำสุด 1,529.45 จุด

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าปรับเพิ่มขึ้นสวนทางตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ปรับตัวลง แต่ยังแกว่งในกรอบแคบๆ นักลงทุนน่าจะผ่อนคลายความกังวลปัจจัยทางการเมืองที่ Soft ลง หลังจากวานนี้หัวหน้าพรรคก้าวไกลแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเข้าไปพบสภาอุตสาหกรรมแห่งประทศไทย (ส.อ.ท.) โดยเฉพาะประเด็นนโยบายขึ้นค่าแรงที่กระทบภาคธุรกิจ ทำให้ความกังวลเรื่องต้นทุนลดลง

ขณะที่ปัจจัยภายนอก ยังมีความกังวลการเจรจาขยายเพดานหนี้ของสหรัฐที่ยังไม่ได้ข้อสรุปออกมา ทำให้ตลาดหุ้นในต่างประเทศส่วนใหญ่ปรับตัวลง จากความไม่แน่นอนว่าสหรัฐจะมีความชัดเจนการขยายเพดานหนี้ออกมาได้ทันวันที่ 1 มิ.ย.หรือไม่ แต่เช้านี้ตลาดหุ้นไทยถือว่า Perform ดีกว่าตลาดหุ้นภูมิภาค

แนวโน้มในช่วงบ่ายคาดว่าดัชนียังแกว่งตัวในกรอบแคบ ระหว่างรอติดตามการเจรจาขยายเพดานหนี้ของสหรัฐต่อไป ซึ่งยังคงเป็นปัจจัยที่กดดัน Sentiment ภาพรวมของตลาดหุ้น โดยให้แนวต้าน 1,545 จุด แนวรับ 1,530 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,141.23 ล้านบาท ปิดที่ 63.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท

DELTA มูลค่าการซื้อขาย 951.38 ล้านบาท ปิดที่ 88.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 830.31 ล้านบาท ปิดที่ 150.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 765.18 ล้านบาท ปิดที่ 136.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท

BDMS มูลค่าการซื้อขาย 740.61 ล้านบาท ปิดที่ 28.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 พ.ค. 66)

Tags: , ,
Back to Top