นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้แกว่งไซด์เวย์อัพตาม Sentiment บวกต่างประเทศ ตอบรับการขยายเพดานหนี้สหรัฐ บรรลุข้อตกลงเบื้องต้น ขณะที่กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ได้รับผลดีจากความต้องการชิป AI เร่งตัวขึ้น ทำให้การส่งออกน่าจะดีขึ้นตามไปด้วย ให้แนวรับไว้ที่ 1,520 จุด และแนวต้าน 1,548 จุด
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.กรุงศรี พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้คาดแกว่งไซด์เวย์อัพ ตอบรับ Sentiment เชิงบวกจากต่างประเทศ หลังการขยายเพดานหนี้สหรัฐฯ ล่าสุด ทำเนียบขาวได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นและคาดว่าจะส่งให้ 2 สภา (ส.ว.และส.ส.) โหวตวันพุธที่ 31 พ.ค.นี้ ทำให้การผิดนัดชำระหนี้น่าจะไม่เกิดขึ้น
ประกอบกับหุ้นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ยังรับกระแสบวกการเติบโตชิปตาม Demand AI หลังบริษัท Marvell Technology Group อีกหนึ่งในผู้ผลิตชิปที่รายงานกำไรดีกว่าคาด และยังให้ Outlook เชิงบวกจากกระแสดังกล่าว ทำให้มองว่าหุ้นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ น่าจะได้ประโยชน์จากการส่งออกที่เพิ่มขึ้น
ให้แนวรับไว้ที่ 1,520 จุด และแนวต้าน 1,548 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (26 พ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,093.34 จุด เพิ่มขึ้น 328.69 จุด หรือ +1.00%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,205.45 จุด เพิ่มขึ้น 54.17 จุด หรือ +1.30% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,975.69 จุด เพิ่มขึ้น 277.59 จุด หรือ +2.19%
– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 31,388.01 จุด พุ่งขึ้น 471.7 จุด หรือ +1.52%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 18,827.08 จุด เพิ่มขึ้น 80.16 จุด หรือ +0.42% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,219.76 จุด เพิ่มขึ้น 7.26 จุด หรือ +0.22%
– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (26 พ.ค.66) 1,530.84 จุด ลดลง 4.58 จุด (-0.30%) มูลค่าการซื้อขาย 38,787.30 ล้านบาท
– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,630.30 ล้านบาท เมื่อวันที่ 26 พ.ค.66
– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. (26 พ.ค.) เพิ่มขึ้น 69 เซนต์ หรือ 0.90% ปิดที่ 76.95 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 1.8% ในรอบสัปดาห์
– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (26 พ.ค.) อยู่ที่ 4.18 เหรียญ/บาร์เรล
– เงินบาทเปิด 34.89 อ่อนค่ารอบ 3 เดือน ให้กรอบวันนี้ 34.70-35.00 จับตาทิศทาง Flow
– “ก้าวไกล” นัดหมาย 30 พ.ค.นี้ หารือ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล โดยมีกระแสข่าวออกมาว่าจะแบ่งเค้กจัดสรรโควตารัฐมนตรี ตามสัดส่วน 8.6 ส.ส. ต่อ 1 เก้าอี้รัฐมนตรี โดย “ก้าวไกล” คุมกระทรวงด้านมั่นคง-คลัง ขณะที่ “เพื่อไทย” คุมกระทรวงเศรษฐกิจ
– ประชาชนจ่อกระอัก “ขุนคลัง” ออกกฎกระทรวงเลิกอุ้มดีเซลลิตรละ 5 บาทที่จะสิ้นสุด 21 ก.ค.แล้ว เหตุให้เกียรติรัฐบาลใหม่ตัดสินใจ เพราะต้องใช้งบประมาณและกระทบจัดเก็บรายได้ สกนช.เชื่อไม่ปรับรวดเดียว “นักวิชาการ” แนะขยับขึ้นแค่ครั้งละ 1 บาท
– เอกชนประสานเสียงค้าน ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาทต่อวัน 45 กลุ่มอุตสาหกรรมอ่วม ต้นทุนพุ่ง 30% กระทบความสามารถการแข่งขัน ธุรกิจไม่กล้าลงทุน สุดท้ายอาจต้องปิดกิจการหรือเลิกจ้าง หนุนจ่ายค่าแรงตามทักษะฝีมือแรงงาน
– ตลาดกัญชาระส่ำ หลังก้าวไกล MOU ผลักดันนำกัญชาเข้าไปอยู่ในบัญชียาเสพติด วิสาหกิจชุมชนกุมขมับหวั่นกระทบหนัก เผยสภาพตลาดดีมานด์ลดวูบ-ลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านเพียบทำราคาร่วงต่อเนื่อง ล่าสุดใบสดเหลือแค่กิโลละ 400-500 บาท ร้านอาหาร-เครื่องดื่ม ทยอยถอดเมนูกัญชา
*หุ้นเด่นวันนี้
-BCH (กรุงศรี) “ซื้อเก็งกำไร” เป้า 20 บาท เก็งกำไรแนวโน้มผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศพุ่งขึ้นในช่วงเข้าสู่ฤดูฝนและเป็นช่วงเปิดเทอม เป็นบวกกับกลุ่มโรงพยาบาลที่เน้นผู้ป่วยในประเทศและมีจำนวนเตียงโควิดในสัดส่วนที่สูง
– BBL (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 181.00 บาท BBL รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/66 ที่ 1 หมื่นล้านบาท +34%QoQ, +42%YoY มีปัจจัยหนุนจากการเติบโตของรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย +59%QoQ, +9%YoY และการวัดมูลค่ายุติธรรมของเครื่องมือทางการเงิน ส่วนค่าใช้จ่าย Cost to income ลดลงอยู่ที่ 47% เทียบกับไตรมาส 4/65 ที่ 52% และ NPL ทรงตัว ภาพรวมในปี 66 ธนาคารตั้งเป้ายอดสินเชื่อเติบโต 4.6% (สิน 1Q66 อยู่ที่ 2.64 ล้านล้านบาท) โดยเน้นปล่อยสินเชื่อกลุ่มธุรกิจรายใหญ่และกิจการในต่างประเทศที่คาดว่าจะเติบโต 5-6% ตามการเติบโตของเศรษฐกิจอาเซียน ส่วนเป้า NIM อยู่ที่ 2.5% แต่ในช่วงไตรมาส 1/66 สูงกว่าที่ 2.84% หนุนจาก Loan Yield ที่เพิ่มขึ้นและยังมีแนวโน้มขึ้นต่อจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 1 ครั้งของ ธปท. ส่วน Cost to income อยู่ที่ 50% เราประเมินกำไรสุทธิปี 66 ที่ 3.3 หมื่นล้านบาท +13%YoY
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 พ.ค. 66)
Tags: SET, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นไทย, หุ้นไทย