หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์ตามภูมิภาค จับตาโหวตขยายเพดานหนี้สหรัฐฯ-กนง.

นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แก่งไซด์เวย์ในกรอบ เป็นไปตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย ยังไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ เนื่องจากนักลงทุนยังรอดูสภาคองเกรสโหวตลงมติร่างกฏหมายการขยายเพดานหนี้ของสหรัฐในคืนนี้ และการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) รวมถึงการปรับประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆในวันนี้ ให้กรอบแนวรับไว้ที่ 1,520 จุด และแนวต้าน 1,540 จุด

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดแกว่งไซด์เวย์ในกรอบ เป็นไปตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย ที่เริ่มย่อตัวลง โดยรวมยังไม่มีปัจจัยหนุนในระยะสั้น ซึ่งนักลงทุนยังคงจับตาดูสภาคองเกรสสหรัฐเตรียมลงมติร่างกฎหมายการขยายเพดานหนี้ในคืนนี้

ขณะที่ในประเทศ จับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันนี้ ว่าจะมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% เป็นไปตามคาดการณ์หรือไม่ รวมถึงการปรับประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจ ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หลังเมื่อวานนี้ตัวเลขส่งออกหดตัว และการจัดตั้งรัฐบาลอาจมีความล่าช้า

ให้กรอบแนวรับไว้ที่ 1,520 จุด และแนวต้าน 1,540 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (30 พ.ค.)ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,042.78 จุด ลดลง 50.56 จุด หรือ -0.15%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,205.52 จุด เพิ่มขึ้น 0.07 จุด หรือ +0.0027% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,017.43 จุด เพิ่มขึ้น 41.74 จุด หรือ +0.32%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 18,415.00 จุด ลดลง 180.78 จุด หรือ -0.97% ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,214.66 จุด ลดลง 9.55 จุด หรือ -0.30% และดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 31,057.09 จุด ลดลง 271.07 จุด หรือ -0.87%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (30 พ.ค.66) 1,534.81 จุด ลดลง 6.16 จุด (-0.40%) มูลค่าการซื้อขาย 46,658.70 ล้านบาท

– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,927.54 ล้านบาท เมื่อวันที่ 30 พ.ค.66

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. (30 พ.ค.)ร่วงลง 3.21 ดอลลาร์ หรือ 4.42% ปิดที่ 69.46 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (30 พ.ค.) อยู่ที่ 4.22 เหรียญ/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 34.64 กลับมาแข็งค่าจากแรงขายดอลลาร์ จับตากนง.ส่งสัญญาณทิศทางดอกเบี้ย

– ก้าวไกลผนึกพรรคร่วมตั้ง Transition Team เปลี่ยนผ่านนโยบาย วางแนวทาง แก้ปัญหา เดินหน้าแก้เผือกร้อน เคลื่อนนโยบายสำคัญ 4 เรื่อง สัญญารถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ภาษีน้ำมันดีเซล ค่าแรงขั้นต่ำ ลดค่าไฟฟ้าอีก 10 สตางค์ เตรียมเดินสายพบภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้ง สภาตลาดทุน สศช. สำนักงบฯ พร้อมเดินหน้างบประมาณฐานศูนย์ ยืนยันไม่แตะเงินทุนสำรอง

– “ศิริกัญญา” รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ยันต้องจัดเก็บ “ภาษีหุ้น” Capital gain tax ส่วนกองทุน LTF จะไม่นำกลับมาอีก ด้าน “ไพบูลย์” นายกสมาคมนักวิเคราะห์ ย้ำไม่เห็นด้วยกับภาษีหุ้น ชี้ตลาดหุ้นแถบเอเชียไม่มีแห่งไหนเก็บ และของไทยมีจัดเก็บภาษีกำไรขายหุ้นระดับนิติบุคคล และภาษีเงินปันผลระดับ 10% อยู่แล้ว

– ธุรกิจลุ้นครึ่งปีหลัง “การเมือง” หายฝุ่นตลบ เศรษฐกิจเดินหน้าต่อศุภาลัย-ค่ายรถ MG ยืนยันโรดแมปลงทุนไม่เปลี่ยน มอนิเตอร์สถานการณ์ใกล้ชิด “ศุภวุฒิ สายเชื้อ” ชี้สัญญาณเศรษฐกิจยังฟื้นตัวลำบาก แบงก์ระวังปล่อยสินเชื่อ-ธุรกิจชะลอลงทุนจับตาปัญหา “หนี้เสีย” รอปะทุ เปิดตัวเลขผลประกอบการ บจ.ไตรมาสแรก “กำไรทรุด” ต้นทุนผลิตและค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ธปท.ชี้ธุรกิจมีความสามารถทำกำไร “ลดลง”

– คลังหักกทม. ปมภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ยืนกรานไม่ใช้กฎหมายล้าสมัย หลัง “ชัชชาติ” ประกาศให้รัฐบาลใหม่ ทบทวนการจัดเก็บ ส่อส่งสัญญาณ กลับไปใช้กฎหมายเก่า

– นักวิชาการชำแหละนโยบายงบประมาณฐานศูนย์ ชี้ทำได้ยาก ไม่เหมาะกับระบบบริหารงบประมาณแผ่นดิน ทำแค่บริหารบริษัท หอการค้าหารือ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” 31 พ.ค.นี้หวั่นงบล่าช้า ก่อสร้างชี้โปรเจ็กต์ใหญ่ต้องมีงบผูกพัน

– “สุพัฒนพงษ์” ย้ำชัดยังดูแลราคาดีเซล แม้ก.คลังไม่ต่ออายุภาษีสรรพสามิต 20 ก.ค.นี้ เผยหากราคาน้ำมันตลาดโลกดีดตัวแรง เตรียมเสนอ ครม.และ กกต. ตามสถานะรัฐบาลรักษาการ ขณะที่นโยบายลดค่าไฟ 70 สต.ต่อหน่วย ขึ้นอยู่กับมติ กกพ.

 

*หุ้นเด่นวันนี้

– GFPT (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้า สูงสุด IAA Consensus 15.90 บาท มีสัญญาณบวกราคาขายไก่ในประเทศเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 46-48 บาทต่อ ก.ก. หรือเพิ่มขึ้นราว 10% จากเฉลี่ย 40.75 บาทต่อ ก.ก.ในไตรมาส 1/66 , ยอดส่งออกไก่ ไก่สดแช่แข็งเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้นแข็งแกร่ง 42%yoy

– ILINK (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 10.00 บาท กำไรสุทธิงวดไตรมาส 1/66 อยู่ที่ 127 ลบ. (+51%YoY, +4% QoQ ) มีแรงหนุนจากกระแสนิยมใน Solar Cell ผ่านการติดตั้งแผงโซลาร์ อุปกรณ์ และสายสัญญาณยี่ห้อ LINK รวมไปถึงรายได้ในธุรกิจโครงการจากการทยอยรับรู้รายได้โครงการที่สำคัญ Backlog เช่น งานจ้างเหมาก่อสร้างสายเคเบิลใต้น้ำ 33 เควี เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี สำหรับการดำเนินงานช่วงถัดไป คาดว่าจะยังได้ประโยชน์ demand ในกลุ่มสายสัญญาณอย่างต้องเนื่อง ส่วนในด้านธุรกิจโครงการ ล่าสุด บ.ก็ชนะราคาต่ำสุดการประมูลงานก่อสร้างสายเคเบิลใต้น้ำระบบ 115 KV ไปยังเกาะสมุย มูลค่ากว่า 1,800 ล้านบาท ของกฟภ. ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรสุทธิปี66 และ ปี67 ILINK*ที่ 470 ลบ.(+23%YoY) และ 491 ลบ.(+4%YoY)

– NSL (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 26 บาท คาดกำไรไตรมาส 2/66 มีลุ้นทำ New High ที่ 82 ลบ. +9% q-q, +2% y-y หนุนจากรายได้ที่คาดเติบโตดีตาม SSSG ของ 7-11 จาก High Season และมีการออกสินค้าใหม่เข้าขายใน 7-11 รวมถึงรับรู้รายได้จาก Bake a Wish เต็มไตรมาส รวมถึงปรับเพิ่มราคาขายสินค้าหลัก 7% ช่วยชดเชยต้นทุนชีสที่เพิ่มได้และทำให้ Gross Margin ยังทรงตัวสูง ประเด็นขึ้นค่าแรง หากพิจารณาเฉพาะพนักงานที่ได้รับค่าแรงขั้นต่ำและปรับขึ้น 10% จะกระทบกำไรเพียง 1.7% ซึ่งกระทบค่อนข้างจำกัด เรายังคงประมาณการกำไรทั้งปี 2566 ที่ 343 ลบ. +15% y-y

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 พ.ค. 66)

Tags: , ,
Back to Top