นลท.ต่างชาติเทขายหุ้นจีนมากขึ้นในเดือนพ.ค. เหตุศก.ชะลอตัว

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า บรรดานักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นในตลาดหุ้นจีนเพิ่มมากขึ้นในเดือนพ.ค. เนื่องจากอุปสงค์ภายในประเทศซบเซาและการคาดการณ์ผลประกอบการธุรกิจอ่อนแอ ส่งผลให้ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงทรุดตัวลงอย่างหนัก

ข้อมูลจากเรฟินิทีฟ (Refinitiv) แสดงให้เห็นว่า นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นในตลาดหุ้นจีนมูลค่า 1.71 พันล้านดอลลาร์ในพ.ค. ผ่านทางโครงการ Stock Connect ซึ่งเชื่อมโยงการซื้อขายระหว่างตลาดหุ้นจีนและตลาดหุ้นฮ่องกง หลังจากขายหุ้นไป 659 ล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย.

การเทขายหุ้นดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนทิศทางการลงทุนอย่างช้า ๆ หลังจากที่นักลงทุนต่างชาติทุ่มเม็ดเงินลงทุนในตลาดหุ้นจีนเป็นจำนวนมากเมื่อเดือนม.ค. ที่มูลค่ารวม 2.092 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยเวลานั้นเป็นช่วงที่จีนกลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง หลังบังคับใช้มาตรการควบคุมโควิด-19 นาน 3 ปี ซึ่งกระตุ้นให้เกิดกระแสการคาดการณ์ในเชิงบวกสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม ความหวังดังกล่าวพังทลายลงเมื่อจีนเผชิญภาวะอุปสงค์ในประเทศและต่างประเทศซบเซา รวมถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ไม่สม่ำเสมอ โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนระบุว่า กำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมจีนปรับตัวลดลงในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2566

สำนักงานสถิติรายงานว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนพ.ค.ของจีน อยู่ที่ระดับ 48.8 ลดลงจากระดับ 49.2 ในเดือนเม.ย. โดยดัชนีที่อยู่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนเข้าสู่ภาวะหดตัว และเป็นการหดตัวที่รุนแรงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 49.4

อย่างไรก็ดี ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยไฉซินและเอสแอนด์พี โกลบอลระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพ.ค.ของจีนอยู่ที่ระดับ 50.9 ในเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับ 49.5 ในเดือนเม.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 50.3

ทั้งนี้ ในช่วงเดือนที่ผ่านมา นักวิเคราะห์ได้ปรับลดประมาณการกำไรของบริษัทจีนขนาดใหญ่และขนาดกลางในช่วง 12 เดือนข้างหน้าลงกว่า 0.7% โดยภาคเหมืองแร่และอสังหาริมทรัพย์ลดลงกว่า 3%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 มิ.ย. 66)

Tags: , , ,
Back to Top