“เรืองไกร” จี้ กกต.สอบ “พิธา” แอบทิ้งหุ้น ITV เชื่อไม่ช่วยให้พ้นผิด

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เข้ายื่นข้อมูลเพิ่มเติมเป็นครั้งที่ 7 กรณีร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคก้าวไกล มีลักษณะต้องห้ามในการลงสมัคร ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98(3) เนื่องจากถือหุ้น บมจ.ไอทีวี (ITV) เนื่องจากมองว่า การตอบคำถามสื่อมวลชนของนายพิธา เรื่องการขายหุ้นไอทีวีไม่มีความชัดเจน

นายเรืองไกร กล่าวว่า นายพิธาควรบอกให้ชัดเจนว่าขายหรือยังไม่ขายหุ้น ITV เพราะนายพิธามีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นมา 16 ปี หลักฐานปรากฏชัด เปลี่ยนแปลงแก้ไขไม่ได้ แล้วถือมาเกินวันสมัครรับเลือกตั้งแน่นอน เพราะรายชื่อผู้ถือหุ้นปรากฏวันที่ 16 เม.ย. 66 แต่วันที่รับสมัคร ส.ส.เขต และส.ส.บัญชีรายชื่อ คือวันที่ 3-7 เม.ย.66

ดังนั้น จึงขอให้ กกต.ตรวจสอบการโอนหุ้นที่เกิดขึ้นภายหลัง ซึ่งไม่ทราบวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน เนื่องจากคงไม่ทำให้การสมัคร ส.ส. หรือการเป็นบัญชีแคนดิเดตนายกฯ ที่มีลักษณะต้องห้ามต้องเสียไป และหากศาลตัดสินว่านายพิธาถือหุ้นสื่อก็จะหมดสิทธิเป็น ส.ส. และบัญชีนายกฯ ด้วย ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 14 ที่ระบุว่าถ้ามีลักษณะต้องห้าม หรือไม่มีหนังสือยินยอม ให้ถือว่าไม่มีการเสนอชื่อ

นายเรืองไกร กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของ กกต.ที่จะต้องสอบถามการขายหุ้นของนายพิธา หากมีการซื้อขายก็ต้องส่งสำเนาการโอนหุ้นด้วย ซึ่งตามพ.ร.บ.บริษัทจำกัดมหาชน พ.ศ. 2535 หมวด 5 เรื่องผู้ถือหุ้น ระบุว่าการโอนหุ้นต้องแจ้งใน 7-14 วัน หากไม่แจ้งจะถือว่าไม่มีการโอนหุ้น สันนิษฐานว่าคงโอนแล้วและน่าจะโอนหลังจากที่ตนยื่นร้องในวันที่ 10 พ.ค.66 และเข้าให้ถ้อยคำต่อ กกต.เมื่อวันที่ 29 พ.ค.66 ขณะที่บริษัทจะต้องจดแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นการโอนโดยตราสาร ใบหุ้นสลักหลัง หรือขอให้ออกใบหุ้นใหม่

“ขอเรียกร้องไปยังนายพิธา ให้เปิดเผยข้อมูลต่อสื่อมวลชน หากยังไม่ได้โอน ก็ตอบมาเลย ว่ายังไม่ได้โอน ถ้าโอน ก็ขอให้แสดงหลักฐานว่าโอนแล้ว และจดแจ้งต่อบริษัทไอทีวีแล้ว แค่นั้นเอง ไม่เห็นมีปัญหาอะไร ที่ผมพูดเช่นนี้ เพราะเว็บไซต์พรรคก้าวไกล ย้ำเสมอถึงคำว่า Open Data ที่ผมเอามาเรียกร้องว่าทำไมข้อมูลของตัวท่าน ในฐานะที่แสดงตนเป็นหัวหน้าพรรค แต่ทำไมไม่เปิดเผย ทำไมต้องให้กกต.รับคำร้องผม แล้วถามไป แล้วการที่ขายไปแล้วเจตนาคืออะไร ผมคงไม่ก้าวล่วง แต่ถ้าคิดว่าโอนแล้วจะทำให้กลับมาเป็นบัญชีนายกฯ โดยชอบ ผมคิดว่าก็คงไม่ใช่ เพราะเป็นไปตามข้อกฎหมาย” นายเรืองไกร ระบุ

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 มิ.ย. 66)

Tags: , , , , ,
Back to Top