PLANET ผนึกขาใหญ่ EV จีน-สิงคโปร์ ลุยธุรกิจรถยนต์ EV-สถานีชาร์จในไทยเต็มรูปแบบ

นายประพัฒน์ รัฐเลิศกานต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย (PLANET) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า ว่า บริษัท Singapore Electric Vehicles Pte (SEV) ผู้ประกอบการรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ในสิงคโปร์ ซึ่งเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้ทำการตลาดและจัดจำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อ SOKON right-hand drive ในสิงคโปร์และประเทศไทย ได้เข้าลงทุนซื้อหุ้นเพิ่มทุนใน บริษัท แพลนเน็ต อีวี จำกัด (Planet EV) ซึ่งบริษัทย่อยของบริษัทฯ คิดเป็น 10% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดหลังการเพิ่มทุน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกันดำเนินธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ทั้งการผลิต ซื้อขาย ส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าทุกชนิด ตลอดจนธุรกิจให้บริการสถานี สำหรับชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร

อนึ่ง เมื่อวันที่ 1 มี.ค.66 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้ Planet EV เพิ่มทุนจดทะเบียนจากทุนจดทะเบียนเดิม 5,000,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 500,000 หุ้น เป็น 10,000,000 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 1,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท เพื่อเพิ่มสภาพคล่องและขยายธุรกิจในอนาคต

“การเข้ามาลงทุนซื้อหุ้นเพิ่มทุนของผู้ประกอบการรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ในสิงคโปร์ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจรถยนต์ EV และจะสามารถช่วยต่อยอดให้รายได้เติบโตมากยิ่งขึ้น ซึ่งมั่นใจว่า ในปี 66 จะเป็นปีที่ธุรกิจในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้ Planet EV จะเริ่มเห็นสัญญาณของการเติบโตที่ชัดเจน” นายประพัฒน์ กล่าว

นายประพัฒน์ กล่าวว่า นอกจากการบรรลุความร่วมมือในธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยร่วมกัน ดังกล่าวแล้ว Planet EV และ SEV ในฐานะ Joint venture ยังได้ลงนามกับผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 100% รายใหญ่จากจีน คือ Sokon motors chongqing group เพื่อเป็นตัวจำหน่ายและศูนย์บริการรถยนต์ไฟฟ้าประเภท ประเภทรถบรรทุกไฟฟ้าขนาดเล็ก มินิแวนบรรทุกไฟฟ้า ยี่ห้อ SOKON ถือเป็นรถที่มียอดขายสูงสุดของตลาดภายในประเทศจีน 2 ปีซ้อน (2021-2022)

ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว ในเบื้องต้น Planet EV และ SEV จะร่วมกันนำรถยนต์ไฟฟ้า 100% ยี่ห้อSokon มาทำการตลาดในประเทศไทยในรูปแบบของการขายและให้เช่า โดย Planet EV จะทำหน้าที่เป็นตัวแทนจำหน่าย ซึ่งในขั้นต้นจะทำตลาดในกลุ่มลูกค้าภาครัฐและเอกชน นำร่องในกลุ่มผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมกลุ่มโลจิสติกส์ ที่ต้องการใช้รถไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ขนาดเล็กสำหรับบรรทุกและขนส่ง ซึ่งจากการเจรจาที่ผ่านมา ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดี

บริษัทได้นำเข้ารถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อดังกล่าว โดยพร้อมจำหน่ายและให้เช่าแล้ว คือ SOKON รุ่น EC31 เป็นรถไฟฟ้าประเภทรถบรรทุกสินค้าขนาดเล็ก ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีประสิทธิภาพสูง บำรุงรักษาง่าย ประหยัดพลังงาน ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 38.7 kWh ให้กำลัง 60 กิโลวัตต์และแรงบิด 200 นิวตันเมตร สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 300 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง รับน้ำหนักได้ 1,200 กก.

และอีกรุ่น เป็นรถยนต์ไฟฟ้าประเภทมินิแวนบรรทุกสินค้า รุ่น EC35 ที่บำรุงรักษาง่าย ประหยัดพลังงาน ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 40.5 kWh ให้กำลัง 60 กิโลวัตต์และแรงบิด 200 นิวตันเมตร สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 300 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง รับน้ำหนักได้ 1,000 กก. โดยรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง 2 รุ่นมีราคาอยู่ที่ 990,000 บาท ที่สำคัญสามารถถอดสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ให้กับรถโดยไม่ต้องเสียเวลาในการต้องรอการชาร์จเป็นเวลานานได้ เพื่อเพิ่มระยะทางการขับขี่และทำให้การใช้งานสะดวกขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมแผนขยายสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่เพื่อรองรับให้เพียงพอ

นายประพัฒน์ กล่าวว่า เพื่อให้การดำเนินการธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าเป็นไปอย่างครบวงจร Planet ยังลงนามความร่วมมือกับบริษัท Beep technologies (Voltality) ผู้ให้บริการโซลูชั่น plug-and-play ชั้นนำจากประเทศสิงคโปร์ ในการติดตั้งอุปกรณ์ POS สำหรับเชื่อม EV charger ทุกชนิด เข้าในระบบการชำระเงินเดียวกัน(Single payment platform) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกันขยายธุรกิจสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย

Beep technologies (Voltality) จะเป็นผู้จัดหาอุปกรณ์ POS ที่สามารถใช้งานร่วมกับเครื่องชาร์จ แพลตฟอร์มโซลูชันซอฟต์แวร์การจัดการพลังงานอัจฉริยะในประเทศไทย รวมถึงการสนับสนุนการดำเนินงานและแคมเปญส่งเสริมการขาย ขณะที่ Planet EV จะประสานดำเนินการเรื่องโครงข่ายไฟฟ้า รวมถึงจัดหาสถานที่ในการติดตั้งอุปกรณ์ดังกล่าว เพื่อยกระดับการให้บริการสถานีสำหรับชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย

Planet EV รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือพันธมิตรดำเนินธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าร่วมกัน ทั้งนี้ ความร่วมมือทั้งหมดในข้างต้น ได้รับการสนับสนุนจาก องค์การวิสาหกิจของสิงคโปร์ (Enterprise Singapore) ซึ่งเป็นหน่วยงาน ด้านส่งเสริมการค้า และการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการของสิงคโปร์ จึงมั่นใจจะสามารถช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน แล้วยังสามารถเพิ่มการขยายตัวของธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 มิ.ย. 66)

Tags: , ,
Back to Top