ประธานาธิบดีโจโก วิโดโดแห่งอินโดนีเซียเรียกร้องในวันนี้ (8 มิ.ย.) ให้มาเลเซียยกระดับความร่วมมือ เพื่อต่อสู้กับการเลือกปฏิบัติต่อผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์มของอินโดนีเซียและมาเลเซีย หลังจากกฎหมายใหม่ของสหภาพยุโรป (EU) เสี่ยงที่จะบั่นทอนการส่งออกผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์มของประเทศ
ทั้งนี้ EU เพิ่งออกกฎหมายฉบับใหม่ในปีนี้ เพื่อห้ามนำเข้าสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่ทำให้เกิดการคาดการณ์ว่าจะส่งผลกระทบต่อน้ำมันปาล์ม
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อินโดนีเซียและมาเลเซียเป็นสองผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันปาล์มรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยน้ำมันปาล์มเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่ใช้เป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์แทบทุกชนิดตั้งแต่ลิปสติกไปจนถึงพิซซ่า
“เราจำเป็นต้องยกระดับความร่วมมือ เนื่องจากเราไม่ต้องการให้ประเทศอื่น ๆ เลือกปฏิบัติต่อสินค้าโภคภัณฑ์ที่ผลิตโดยมาเลเซียและอินโดนีเซีย” ปธน.วิโดโดระบุในการแถลงข่าว ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์เมืองหลวงของประเทศมาเลเซีย หลังเสร็จสิ้นการประชุมกับนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมแห่งมาเลเซีย
ในแถลงการณ์ร่วม ปธน.วิโดโดและนายกฯอิบราฮิมประกาศว่าจะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด เพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับมาตรการที่เลือกปฏิบัติของ EU ที่มีต่อน้ำมันปาล์ม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 มิ.ย. 66)
Tags: น้ำมันปาล์ม, อินโดนีเซีย, โจโก วิโดโด