นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยการเมืองและการพัฒนา มหาวิทยาลัยรังสิต และอดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก สนับสนุนให้พรรคก้าวไกล ต้องยืนยันสิทธิในการขอเสนอชื่อ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เพื่อให้ที่ประชุมรัฐสภาลงมติเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ในการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาลงมติเลือกบุคคลที่สมควรดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 27 ก.ค.นี้ ด้วยเหตุผลดังนี้
1. พรรคก้าวไกลขอ 8 พรรค ในการเข้าชิงนายกฯ ครั้งที่ 2 ก่อนจะประเมินว่าจะส่งต่อให้ “พรรคเพื่อไทย” หรือไม่
2. การลงมติเลือกนายกครั้งที่ 2 ยังไม่เกิดขึ้น แต่ถูกตัดหน้าจากเสียงข้างมากในสภาวินิจฉัยว่า “เสนอชื่อซ้ำไม่ได้” โดยอ้างข้อบังคับการประชุมข้อ 41 ที่ระบุว่า “ญัตติใดเคยเสนอและตกไปแล้ว ไม่สามารถเสนอซ้ำอีกในสมัยประชุมนั้น”
3. การอ้างข้อบังคับดังกล่าว แม้จะเป็นมติเสียงข้างมากของรัฐสภา แต่เป็นการลงมติขัดกับรัฐธรรมนูญ เพราะไม่มีส่วนใดของรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะเป็น มาตรา 88, 89 หรือ 272 ที่เขียนไว้เลยว่า ห้ามเสนอชื่อซ้ำ เมื่อไม่เขียน ก็หมายความว่า “เสนอได้” ดังเช่น กรณีการลงมติเลือก กกต. เมื่อปี 2561 ก็เป็นการเสนอชื่อซ้ำ
4. แม้การเสนอชื่อจะถูกนับว่าเป็นญัตติ และต้องเป็นไปตามข้อบังคับที่ 41 แต่ในส่วนท้ายของข้อดังกล่าวได้เขียนว่า “ประธานรัฐสภา สามารถบรรจุญัตติซ้ำที่ตกไปได้ หากมีเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป และเป็นวินิจฉัยของประธานรัฐสภาคนเดียว ไม่ต้องขอมติสภา”
“ไม่ยากครับ ลดพรรคเล็ก ๆ 1 เสียง หรือเพิ่มพรรคเล็ก ๆ 1 เสียง ก็ถือว่ามีเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงแล้ว” นายสมชัย ระบุ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ก.ค. 66)
Tags: ก้าวไกล, พิธา ลิ้มเจริญรัตน์, สมชัย ศรีสุทธิยากร, โหวตนายก