ภาวะตลาดตราสารหนี้: วันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 62,360 ล้านบาท

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยประจำวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งวันอยู่ที่ 62,360 ล้านบาท ด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด 2 อันดับแรก คือ

1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ซื้อสุทธิ 14,757 ล้านบาท

 2. กลุ่มบริษัทประกัน ซื้อสุทธิ 62 ล้านบาท

ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิ 597 ล้านบาท  Yield พันธบัตรอายุ 5 ปี ปิดที่ 2.37%   ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน +0.02%

ภาพรวมของตลาดในวันนี้

Yield Curve ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าประมาณ 1-2 bps. ในตราสารระยะยาว สำหรับกระแสเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติวันนี้ NET INFLOW 597 ล้านบาท โดยเกิดจาก NET BUY 597 ล้านบาท และไม่มีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ (Expired) ด้านปัจจัยต่างประเทศ รายงานอัตราเงินเฟ้อผู้บริโภคของญี่ปุ่นประจำเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 3.3% (YoY)  เนื่องจากราคาอาหารและสินค้าคงทนปรับตัวขึ้น และบริษัทสาธารณูปโภคได้ปรับขึ้นค่าไฟฟ้า ขณะที่รายงานตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐฯ ลดลง 9,000 ราย สู่ระดับ 228,000 ราย ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 242,000 ราย ด้านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) มี NET SELL ของนักลงทุนต่างชาติ 584 ล้านบาท สำหรับ Holding ของนักลงทุนต่างชาติ ณ สิ้นสัปดาห์นี้ปรับเพิ่มขึ้น 14,839 ล้านบาท จาก 1,014,148 ล้านบาท ในสัปดาห์ก่อนหน้าเป็น 1,028,987 ล้านบาท ทั้งนี้ตลาดติดตามการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า

สรุปภาวะการซื้อขายตราสารหนี้

ตลาดตราสารหนี้ไทย21-07-2023Change%Change
 มูลค่าการซื้อขาย62,359.75 ลบ.
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 3 เดือน1.89 %0.00 %
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 1 ปี2.04 %0.00 %
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 5 ปี2.37 %เพิ่มขึ้น+0.02 %

มูลค่าการซื้อขายแบบ Outright (แยกตามประเภทตราสาร)

ประเภทตราสารล้านบาทChange%Change
ตั๋วเงินคลัง2,178.51เพิ่มขึ้น590 %
พันธบัตรรัฐบาล23,564.30เพิ่มขึ้น6 %
ตั๋วสัญญาใช้เงินรัฐบาล0.00n/a
พันธบัตร ธปท.23,369.48ลดลง57 %
พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ913.58เพิ่มขึ้น133 %
หุ้นกู้เอกชน2,970.50เพิ่มขึ้น40 %
พันธบัตรต่างประเทศ0.00n/a

หมายเหตุ: n/a คือ หาค่าไม่ได้ เนื่องจากไม่มีมูลค่าการซื้อขายในวันก่อนหน้า

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ก.ค. 66)

Tags: , , ,
Back to Top