รทสช.นัด 26 ก.ค.ถกผลหารือเพื่อไทย ชี้หากรอถึง 10 เดือนทำปท.เสียหาย

นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงท่าทีพรรครวมไทยสร้างชาติ หลังร่วมหารือกับพรรคเพื่อไทยวานนี้ (23 ก.ค.) เป็นการส่งสัญญาณร่วมงานทางการเมืองกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ว่า เป็นไปตามที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค รทสช. ได้แสดงจุดยืนไปแล้ว แต่จะร่วมกันหรือไม่ ต้องมาหารือกันภายในพรรคก่อน ซึ่งพรรครวมไทยสร้างชาติ จะนัดประชุมสส.ในวันที่ 26 ก.ค.นี้ เวลา 16.00 น. โดยหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคจะนำผลการหารือมาพูดคุยในที่ประชุม สส. และกรรมการบริหารพรรค

เมื่อถามถึงทิศทางแนวโน้มของสส.รวมไทยสร้างชาติขณะนี้มีความคิดเห็นอย่างไรนั้น นายธนกร มองว่า สส.ภายในพรรคเป็นเอกภาพ ดังนั้น การพูดคุยเจรจาถ้ามีเงื่อนไขทำเพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ก็เชื่อว่า สส.ของพรรคไม่มีปัญหา

อย่างไรก็ดี หลังจากหารือกับพรรคเพื่อไทยแล้ว ไม่ได้มีการไปพูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะอดีตประธานยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับพรรคแล้ว และการประกาศวางมือทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่เกี่ยวข้องกับการเปิดทางให้พรรครวมไทยสร้างชาติ ไปร่วมทางทางการเมืองกับพรรคเพื่อไทยแต่อย่างใด

เมื่อถามถึงแนวคิดของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ออกมาระบุว่า หากพรรคเพื่อไทยไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ก็เป็นหน้าที่ของพรรคในลำดับที่ 3 ในการจัดตั้งรัฐบาล คือพรรคภูมิใจไทยนั้น จะถือเป็นการส่งสัญญาณว่าพรรคเพื่อไทยไม่สามารถจะตั้งรัฐบาลได้ใช่หรือไม่ นายธนกร ระบุว่า ตามหลักการพรรคอันดับ 1 จัดตั้งไม่ได้ก็ต้องเป็นพรรคในลำดับที่ 2 และหากพรรคในลำดับที่ 2 ไม่สามารถจัดตั้งได้ก็เป็นพรรคลำดับที่ 3 เป็นไปตามหลักการทั่วไป

  • ธนกร เห็นใจเพื่อไทย ถาม “พิธา” เป็นนายกฯ ได้คนเดียวหรือ

นายธนกร แสดงความเห็นใจพรรคเพื่อไทย เนื่องจากมติของ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ได้มอบหมายให้พรรคเพื่อไทยไปแสวงหาเสียงสนับสนุนเพิ่มเติมในแนวทางต่างๆ แต่เมื่อพรรคเพื่อไทยไปแสวงหาเสียงเพิ่ม ก็กลับถูกแกนนำพรรคก้าวไกลเหน็บแนม และมีมวลชนบุกไปยังที่ทำการพรรคเพื่อไทย ซึ่งตนมองว่าไม่เหมาะสม เหมือนปล่อยให้มีบรรยากาศแบบนี้เกิดขึ้น ซึ่งเป็นทฤษฎี 2 ขา อาจจะนำไปสู่ความขัดแย้งในที่สุด

“แกนนำจัดตั้งรัฐบาลอันดับ 1 พอเป็นนายกฯ ไม่ได้ไม่มีใครเป็นได้แล้วหรือ นอกจากคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ผมก็ไม่เข้าใจ เพราะที่ผ่านมาหากอันดับ 1 ตั้งไม่ได้ ก็อันดับ 2 ตั้งไป เป็นเรื่องปกติมากทางการเมือง และที่บอกว่ารอไปสัก 10 เดือน ส่วนตัวมองว่าเมื่อเลือกตั้งเสร็จ กลไกการจัดตั้งรัฐบาล การเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีก็ควรเดินหน้าไป แม้มีอุปสรรคบ้าง เพราะมันเป็นการเมืองแบบรัฐสภา ซึ่งสามารถแก้ไขได้ ไม่ควรรอถึง 10 เดือน เพราะประเทศเสียหาย และประชาชนเฝ้ารอดูอยู่ และนักธุรกิจก็เฝ้ารอดูอยู่” นายธนกรกล่าว

เมื่อถามว่ามองอย่างไรในท่าทีของพรรคก้าวไกล ที่ดูเหมือนว่าจะไม่ยอมออกจากพรรคร่วมรัฐบาล นายธนกร กล่าวว่า “แบบนี้มันเป็นเด็กเกินไปหรือเปล่า บ้านเมืองไม่ใช่เด็กเล่นขายของ คนที่จะแต่งงานกันต้องรักกันด้วยใจ ไม่ใช่รักด้วยสมอง”

“เหมือนกับคนที่เป็นแฟนกัน หมั้นกันแล้ว เขาก็เลิกกันได้ เหมือนพ่อแม่คลุมถุงชนมาอย่างนี้ วันหนึ่งเมื่อหมั้นกันแล้ว พ่อแม่คลุมถุงชนมา เขาก็ยังเลิกกันได้เลย เพราะมันไม่ได้รักกันด้วยหัวใจไง ฉะนั้นคนที่จะแต่งงานกัน มันต้องมีความรักที่ออกมาจากใจ ไม่ใช่รักด้วยสมอง แต่ต้องรักด้วยหัวใจ” รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ระบุ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ก.ค. 66)

Tags: , , ,
Back to Top