CKP ดีดขึ้น 1.14% คาดงบ Q2/66 พลิกมีกำไร แต่ H2/66 ยังรับผลกระทบเอลนีโญ

CKP ปรับขึ้น 1.14% หรือเพิ่มขึ้น 0.04 บาท มาที่ 3.56 บาท มูลค่าซื้อขาย 55.45 ล้านบาท เมื่อเวลา 15.55 น. จากราคาเปิด 3.56 บาท ราคาสูงสุด 3.78 บาท ราคาต่ำสุด 3.56 บาท

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ประมาณการผลประกอบการของ บมจ.ซีเค พาวเวอร์ (CKP) ในไตรมาส 2/66 ดีขึ้นจากโครงการไซยะบุรี (จากปัจจัยฤดูกาลและบางส่วนกำไร FX) โดยคาดว่า CKP รายงานกำไรสุทธิ 23 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนสุทธิ 104 ล้านบาทในไตรมาส 1/66 , -97% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) แต่หากไม่รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน(FX) 11 ล้านบาท กำไรหลักจะอยู่ที่ 12 ล้านบาท จากขาดทุนหลัก 104 ล้านบาทในไตรมาส 1/66 ,99% จาก YoY

ส่วนครึ่งปีแรกคาดขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 81 ล้านบาท จากมีกำไรสุทธิ 903 ล้านบาทในงวดครึ่งปีแรกปี 65 เนื่องจากกระแสน้ำลดลงจากภาวะเอลนีโญ

ทั้งนี้ ยอดผลิตไฟฟ้าของไซยะบุรีเพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ เป็น 1,265GWh (+3% QoQ, -41% YoY)เนื่องจากกระแสน้ำเข้าเขื่อนจากอ่างเก็บน้ำ Xiaowan และ Nuozhadu ในประเทศจีนอยู่ในระดับต่ำ ทั้งนี้ ยิ่งดอกเบี้ยสูงขึ้น และยาวนานขึ้นแค่ไหน ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยของโครงการไซยะบุรีก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นเท่านั้น

ส่วนปริมาณผลิตไฟฟ้าของน้ำงึม 2 (NN2) อยู่ที่ 319GWh (-8% QoQ, -25% YoY) จากการใช้แนวทางการผลิตอนุรักษ์นิยม ขณะเดียวกัน ผลประกอบการ CKP ที่แย่ลงมาก YoY เป็นเพราะโรงไฟฟ้าพลังน้ำอ่อนแอ โดยดูเหมือนจะมีเพียง BIC1-2 เท่านั้นที่กำไรจะดีขึ้นทั้ง QoQ และYoY จากราคาก๊าซลดลง แม้ว่าค่า Ft เฉลี่ยจะลดลง QoQ เหลือ 1.12 บาท/kWh (-0.42)

ทั้งนี้ เราคาดว่าในครึ่งปีหลังปี 66 CKP จะยังคงได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญ และดอกเบี้ยขาขึ้นที่ยาวนานขึ้น ดังนั้น เราจึงคาดว่าต้นทุนภาระหนี้ของโครงการไซยะบุรีซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 6.3% ในไตรมาส 1/66 จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ในช่วง 6.4%-6.5% ทั้งนี้ และเรายังคงคาดว่ากำไรในไตรมาส 3/66 จะเป็นจุดสูงสุดในรอบปี 66 จากปัจจัยฤดูกาล ก่อนที่จะกลับมาลดลง QoQ ในไตรมาส 4/66 โครงการ NN2 ยังมีกำหนดจะเริ่มทำ overhaul รอบใหญ่ในไตรมาส 4/66 อีกด้วย

เนื่องจากผลประกอบการฟื้นตัวช้า ขณะที่ยังมีปัจจัยที่อยู่เหนือการควบคุมอย่างเช่นสภาวะอากาศ จึงแนะนำให้นักลงทุนกระแสหลักรอดูสถานการณ์ไปก่อน เราคาดว่า ROE ของ CKP จะอยู่ในช่วง 3-4% ในปี 66-68 ซึ่งต่ำกว่าระดับ peak ของบริษัทที่ 6-6.5% ในปี 64-65 อีกไกล

ทั้งนี้ ถึงแม้ว่าราคาหุ้นในปัจจุบันจะอยู่ที่ระดับใกล้เคียง P/BV เฉลี่ยในอดีต -2S.D.แต่เรายังไม่เห็นปัจจัยที่จะมาช่วยกระตุ้นราคาหุ้น ดังนั้นเราจึงยังแนะนำ “ถือ” ด้วยราคาเป้าหมายปี 66 ที่ 4.00 บาท เรามองว่า Upside จะมาจากโครงการใหม่ ๆ ที่มีขนาดใหญ่และกระแสน้ำเข้าเขื่อนเพิ่มขึ้นกว่าคาด

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ก.ค. 66)

Tags: , ,
Back to Top