นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้คาดแกว่งไซด์เวย์ ติดตามการตีความของศาลรัฐธรรมนูญหลังผู้ตรวจการฯยื่นขอให้วินิจฉัยการยกข้อบังคับสภาฯ ขวางการเสนอชื่อ “พิธา” รอบ 2 ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ พร้อมขอให้มีคำสั่งรัฐสภาเลื่อนโหวตไปก่อน รวมถึงการประชุมเฟดสัปดาห์นี้ แต่คาดได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน ให้แนวต้านที่ 1,530-1,537 จุด และแนวรับ 1,515-1,507 จุด
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.กรุงศรี พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้คาดแกว่งไซด์เวย์ โดยปัจจัยภายในประเทศยังคงต้องรอดูในเรื่องของการตีความศาลรัฐธรรมนูญกรณีผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นขอให้วินิจฉัยกรณียกข้อบังคับการประชุมสภาข้อที่ 41 ขัดขวางการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จากพรรคก้าวไกลให้ที่ประชุมโหวตนั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ พร้อมขอให้มีคำสั่งรัฐสภาเลื่อนโหวตนายกฯ จนกว่าจะมีผลการวินิจฉัย
ขณะเดียวกันภายนอกประเทศก็รอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 27 ก.ค.นี้
อย่างไรก็ตามคาดว่าตลาดน่าจะได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน หลังจีนทยอยเผยแผนกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง โดยตลาดคาดการประชุม Politburo จะมีมาตรการหนุนกลุ่มอสังหาฯ
ให้แนวต้านที่ 1,530-1,537 จุด และแนวรับ 1,515-1,507 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (24 ก.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,411.24 จุด เพิ่มขึ้น 183.55 จุด หรือ +0.52%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,554.64 จุด เพิ่มขึ้น 18.30 จุด หรือ +0.40% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,058.87 จุด เพิ่มขึ้น 26.06 จุด หรือ +0.19%
– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 19,172.28 จุด พุ่งขึ้น 504.13 จุด หรือ +2.70% ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,201.46 จุด เพิ่มขึ้น 37.3 จุด หรือ +1.18% และดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 32,705.39 จุด เพิ่มขึ้น 4.45 จุด หรือ +0.01%
– ตลาดหุ้นไทยปิด(24 ก.ค.66) 1,523.81 จุด ลดลง 5.44 จุด (-0.36%) มูลค่าซื้อขาย 50,652.91 ล้านบาท
– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 4,402.32 ล้านบาท เมื่อวันที่ 24 ก.ค.66
– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.(24 ก.ค.)พิ่มขึ้น 1.67 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 78.74 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดในรอบเกือบ 3 เดือนหรือนับตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย. 2566
– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (24 ก.ค.) อยู่ที่ 8.48 เหรียญ/บาร์เรล
– เงินบาทเปิด 34.47 เกาะติดประชุม 8 พรรค-ปมโหวตนายกฯ ให้กรอบ 34.40-34.70
– ผ่าทางตัน! ผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยปมเสนอ ชื่อ “พิธา” ซ้ำ พร้อมขอให้ชะลอโหวตเลือก นายกฯ 27 ก.ค. เหตุอาจจะขัดต่อกฎหมาย และอาจทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อประเทศ ยากที่จะเยียวยาแก้ไข นักนิติศาสตร์ทั่วประเทศฮือค้านข้อบังคับใหญ่กว่ารัฐธรรมนูญ ชี้สร้างบรรทัดฐานที่ผิดพลาด ร้องยกเลิกก่อนการเรียนสอนหลักกฎหมายในไทยถึงทางตัน “จรัญ” ระบุศาล รธน.ไม่มีอำนาจชี้ขาดข้อบังคับทางออกอยู่ที่ “วันนอร์” จะดำเนินการ
– โหวตนายกฯ ยืดเยื้อลุ้นศาลพิจารณาประชุมรัฐสภา 19 ก.ค.ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ สำนักงบฯ ห่วงรัฐบาลรักษาการ 10 เดือน กระทบเศรษฐกิจและงบประมาณปี 67 ส.อ.ท.ชี้ยิ่งตั้งรัฐบาลช้ายิ่งเป็นต้นทุนเศรษฐกิจที่ประเทศต้องแบก “กอบศักดิ์” เผย ตลาดทุนรอรัฐบาลใหม่ล่าช้า 1-2 เดือนได้ แต่ต้องมีเสถียรภาพ นายกสมาคม บลจ.ชี้กองทุนถือเงินรอลงทุนหากการเมืองไทยชัดเจน
– ส.อ.ท.วอนภาครัฐพิจารณาปรับลดค่าไฟฟ้างวด 3/66 (เดือน ก.ย.-ธ.ค. 2566) ลงมาอยู่ที่ 4.25 บาท/หน่วย เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตให้กับผู้ประกอบการ พร้อมปรับเพิ่มเที่ยวบินรับนักท่องเที่ยวบูม ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมในเดือน มิ.ย.อยู่ที่ 94.1 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 92.5 ในเดือน พ.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน
– โฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิ ในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 66 (ต.ค.65-มิ.ย.66) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 1.95 ล้านล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 136,613 ล้านบาท หรือเกินเป้าหมาย 7.5% และยังสูงกว่าปีก่อน 5.2% โดยหน่วยงานที่จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมายที่สำคัญ มาจากกรมสรรพากร ซึ่งจัดเก็บรายได้จำนวนมากจากเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
หุ้นเด่นวันนี้
– MINT (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 67 ที่ 43 บาท คาดกำไรปกติไตรมาส 2/66 มีโอกาสทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2.9 พันลบ.พลิกจากขาดทุนในไตรมาส 1/66 และ +138% y-y หนุนจากผลงานจอง NHH ที่โดดเด่นจาก High Season ส่วนธุรกิจอื่นนอกเหนือจากนั้นทั้งอาหารและโรงแรมในไทยคาดมีกำไรบางๆ แนวโน้มผลงานโรงแรมในยุโรปคาดยังแข็งแกร่งต่อเนื่องในไตรมาส 3/66 เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปกติปี 66-67 ขึ้น 4-18% เป็น 6.5 พันลบ. +221% y-y และ 7.4 พันลบ. +14% y-y ตามลำดับ
– BANPU (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 9.4 บาท ราคาเชื้อเพลิงมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นทั้งก๊าซธรรมชาติและถ่านหิน เนื่องจากประเมินว่าปรากฎการณ์ El Nino จะดำเนินต่อเนื่องไปจนถึงหน้าหนาวนี้ และภัยแล้งในเอเชียทำให้ผลิตไฟฟ้าด้วยน้ำได้น้อยลง ทำให้ราคาก๊าซธรรมชาติและถ่านหินซึ่งเป็นพลังงานหลักในการผลิตไฟฟ้าปรับสูงขึ้น ด้าน valuation เรามองว่าค่อนข้างถูกเนื่องจากหุ้นเทรดที่ PE ต่ำไม่ถึง 5x, PB ราว 0.6x และให้ dividend yield สูง 5.7% ดังนั้นหากจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจคาดว่าราคาหุ้นน่าจะตอบสนองเชิงบวกได้
– PTTEP (เมย์แบงก์)เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 180 บาท ได้อานิสงส์จากแนวโน้มราคาน้ำมันดิบฟื้นตัว ปัจจัยบวกด้าน demand คาดจากจีนกระตุ้นเศรษฐกิจและด้าน supply ที่ OPEC+ ปรับลดปริมาณการผลิตเพิ่มเติมในการประชุม มิ.ย.ขณะที่กำไรมีแนวโน้มค่อยๆ ฟื้นตัวในไตรมาส 3-4 ปี 66 จากราคาทั้งน้ำมันและปริมาณขายที่สูงขึ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ก.ค. 66)
Tags: SET, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นไทย, หุ้นไทย