“พาวเวล” ส่งสัญญาณอาจขึ้นดอกเบี้ยอีกในก.ย. ดับความหวังเฟดลดดอกเบี้ยปีนี้

นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้จัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายการเงินในวันพุธ (26 ก.ค.) โดยกล่าวว่า การตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงินในอนาคตนั้น เฟดจะตัดสินใจในการประชุมเป็นรายครั้ง รวมทั้งพิจารณาถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในเวลานั้น โดยเฟดจะจับตาข้อมูลเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด แต่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยยังไม่มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในปีนี้

ในระหว่างการแถลงข่าว นายพาวเวลไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหากจำเป็น โดยกล่าวว่า “มีความเป็นไปได้ว่าเราอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในการประชุมเดือนก.ย. หากข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงเวลาดังกล่าวสนับสนุนให้เราดำเนินการเช่นนั้น และในขณะเดียวกันก็มีความเป็นไปได้ที่เราอาจเลือกที่จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. หากการดำเนินการดังกล่าวสอดคล้องกับจุดยืนด้านนโยบายของเรา”

นายพาวเวลยังได้กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสคาดการณ์ในตลาดว่า เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้ โดยเขากล่าวว่า “เราจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยก็ต่อเมื่อเราเห็นว่าสถานการณ์เอื้ออำนวยให้เราดำเนินการเช่นนั้น แต่คาดว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะไม่เกิดขึ้นในปีนี้”

นายพาวเวลได้แสดงความหวังว่า เฟดจะสามารถบรรลุเป้าหมายที่จะเห็นเศรษฐกิจของสหรัฐชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป หรือซอฟต์แลนดิง ซึ่งหมายถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่เงินเฟ้อชะลอตัวลง, อัตราว่างงานยังคงอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ และเศรษฐกิจไม่อยู่ในภาวะถดถอย

“การคาดการณ์พื้นฐานของผมคือ เราจะสามารถบรรลุเป้าหมายด้านเงินเฟ้อด้วยการฉุดอัตราเงินเฟ้อให้ลดลงสู่ระดับเป้าหมายของเฟดโดยไม่ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ดี ผมมองว่าการจะบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้นั้น เฟดอาจจะต้องใช้เวลาอีกนาน” นายพาวเวลกล่าว

นอกจากนี้ นายพาวเวลกล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ของเฟดไม่ได้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเผชิญภาวะถดถอย ซึ่งทำให้เฟดสามารถพุ่งเป้าไปที่การปรับลดเงินเฟ้อลงสู่เป้าหมายโดยไม่ทำให้สูญเสียการจ้างงานมากเกินไป

“ขณะนี้เจ้าหน้าที่ของเฟดคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะเริ่มชะลอตัวลงในช่วงปลายปีนี้ แต่เมื่อพิจารณาจากการฟื้นตัวเมื่อไม่นานมานี้ ทำให้เราคาดว่าเศรษฐกิจจะไม่เผชิญภาวะถดถอย” นายพาวเวลกล่าว

ถ้อยแถลงดังกล่าวของนายพาวเวลมีขึ้น หลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมครั้งล่าสุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 22 ปี

ทั้งนี้ การประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 11 นับตั้งแต่ที่เฟดเริ่มวัฏจักรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. 2565 ส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 5.25%

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ก.ค. 66)

Tags: , , , , , ,
Back to Top