SAK หั่นเป้าพอร์ตลูกหนี้ปี 66 ชูสินเชื่อโดรนเกษตร-โซลาร์ รูฟท็อปรุกครึ่งปีหลัง

นายศิวพงศ์ บุญสาลี กรรมการผู้จัดการ บมจ.ศักดิ์สยามลิสซิ่ง (SAK) เปิดเผยว่าบริษัทปรับเป้าการเติบโตของพอร์ตลูกหนี้ปี 66 จากเดิมเติบโต 25% เป็น 15% ซึ่งพอร์ตลูกหนี้จะอยู่ที่ 12,400 ล้านบาท หลังจากครึ่งปีแรกผลประกอบการไม่เป็นไปตามเป้า และการเติบโตเมื่อกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วคาดว่าเพิ่มขึ้น 15-20% อย่างไรก็ตามบริษัทขยายการปล่อยสินเชื่อประเภทอื่น อาทิ สินเชื่อที่ดิน เพื่อชดเชยการพึ่งพารายได้จากธุรกิจสินเชื่อรถเพียงอย่างเดียว

อย่างไรก็ตามบริษัทมั่นใจช่วงครึ่งปีหลังธุรกิจสินเชื่อมีโอกาสเติบโตได้ดี หนุนจากช่วง High season ของการทำเกษตรกรรมซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัท รวมทั้งยอดขายจากจำนวนสาขาที่เปิดใหม่ปี 66 อีก 100 แห่ง และการควบคุมหนี้ NPL บริษัทสามารถปรับควบคุมให้อยู่ในระดับประมาณ 2.5% คาดว่าจะรักษาระดับนี้ได้จนถึงช่วงสิ้นปี

ทั้งนี้ธุรกิจโซลาร์ รูฟท็อป คาดยอดติดตั้งภายในปี66 จำนวน 100 – 200 หลังต่อเดือน จากเดิมตั้งไว้ 30-50 หลังต่อเดือน ซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งแต่ไตรมาส 2/66 นอกจากนี้ธุรกิจสินเชื่อโดรนเพื่อการเกษตร ตั้งเป้ายอดขายเฉลี่ย 10 ลำต่อเดือน ซึ่งบริษัทมียอดขาย 60-70% ของเป้าที่วางไว้ สำหรับธุรกิจสินเชื่อที่ดินที่บริษัทได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ไตรมาส 2/66 ตอนนี้มียอดสินเชื่อเข้ามาประมาณ 50 ล้านบาท และมีหนี้เสียเป็นจำนวนน้อยมาก คาดว่ามีโอกาสที่จะขยายธุรกิจสินเชื่อที่ดินให้มากขึ้น

หลังจากบริษัทฯ เปิดสาขาเพิ่มขึ้นจำนวน 100 สาขา หรือเพิ่มเป็น 1,029 สาขา ซึ่งเมื่อสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย เศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัว ทำให้การดำเนินงานของสาขามีทิศทางที่ Break Even หรือสร้างกำไรได้ตามเป้าที่กำหนดเอาไว้

“ในช่วงครึ่งปีหลังความต้องการสินเชื่อเพื่อนำมาเป็นฐานทุนการประกอบอาชีพมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ สำหรับ SAK วางแผนรุกธุรกิจครึ่งปีหลังอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งพิจารณาการปล่อยสินเชื่อที่มีความรัดกุม เพื่อบริหารความเสี่ยงและควบคุมคุณภาพลูกหนี้ จึงมั่นใจว่าในปีนี้จะผลักดันพอร์ตสินเชื่อทั้งปีได้ตามเป้าหมาย” นายศิวพงศ์กล่าว

ไตรมาส 2/66 บริษัทมีรายได้รวม 675.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 108.0 ล้านบาทหรือ 19.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) หลังจากการขยายธุรกิจเป็นไปตามเป้า ส่งผลให้บริษัทมีฐานลูกค้าและลูกหนี้เงินให้สินเชื่อเพิ่มขึ้น โดยรายได้จากธุรกิจนายหน้าประกันภัยยังเป็นไปตามเป้า มียอดขาย 6 ล้านบาทต่อเดือน คาดว่าปี 66 จะมียอดขายทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 70 ล้านบาทและปีหน้าคาดว่าจะมีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับประกันเพิ่มเข้ามาอีก

นอกจากนี้ ประเภทสินเชื่อที่มีอัตราการเติบโตอย่างโดดเด่น ประกอบด้วย สินเชื่อส่วนบุคคลที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน 9,480 ล้านบาท โดยมีสัดส่วน 81.2% สินเชื่อส่วนบุคคลที่มิใช่สินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน 274 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 2.3 % สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ 1,301 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 11.1% สินเชื่อที่ดิน 50 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 0.4% และสินเชื่อเช่าซื้อ 586 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 5.0% โดยสินเชื่อเพื่อการติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อปสำหรับที่อยู่อาศัย 20 ล้านบาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ส.ค. 66)

Tags: , , , ,
Back to Top