หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าปรับขึ้นตามภูมิภาค หลังจีนเจรจาแบงก์ปล่อยกู้ฟื้นศก.-หวังโหวตนายกฯผ่านฉลุย

นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ ปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นภูมิภาค ตอบรับธนาคารกลางจีน เจรจาผู้บริหารธนาคารต่างๆ ให้ปล่อยกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ และคาดหวังการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้จะสำเร็จไปได้ด้วยดี ให้แนวรับไว้ที่ 1,515-1,510 จุด และแนวต้าน 1,535-1,540 จุด

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้น สอดคล้องตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย ตอบรับธนาคารกลางจีน (PBOC) และหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินและหลักทรัพย์ของประเทศจีน ได้ประชุมกับผู้บริหารธนาคารต่าง ๆ พร้อมขอให้ธนาคารเหล่านี้ปล่อยเงินกู้มากขึ้น เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ รวมถึงราคาน้ำมันดิบก็ปรับตัวขึ้นมาด้วย

ขณะที่ปัจจัยในประเทศนักลงทุนคาดหวัง การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 22 ส.ค.นี้ จะสำเร็จไปได้ด้วยดี โดยให้ติดตามการแถลงข่าวการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยในวันนี้ ซึ่งจะหนุนให้ตลาดปรับตัวขึ้น

ให้แนวรับไว้ที่ 1,515-1,510 จุด และแนวต้าน 1,535-1,540 จุด

 

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

 

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (18 ส.ค.)ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,500.66 จุด เพิ่มขึ้น 25.83 จุด หรือ +0.07%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,369.71 จุด ลดลง 0.65 จุด หรือ -0.01% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,290.78 จุด ลดลง 26.16 จุด หรือ -0.20%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดที่ระดับ 31,552.85 จุด เพิ่มขึ้น 102.09 จุด หรือ +0.32%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 17,798.47 จุด ลดลง 152.38 หรือ -0.84% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,125.99 จุด ลดลง 5.96 จุด หรือ -0.20%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (18 ส.ค.66) 1,519.12 จุด ลดลง 9.69 จุด (-0.63%) มูลค่าซื้อขาย 56,886.66 ล้านบาท

– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 28.81 ล้านบาท เมื่อวันที่ 18 ส.ค.66

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย. 18 ส.ค.)เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 81.25 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ปรับตัวลง 2.3% ในรอบสัปดาห์นี้

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (18 ส.ค.) อยู่ที่ 14.13 เหรียญ/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 35.37 แข็งค่าจากท้ายสัปดาห์ก่อนเล็กน้อย เกาะติด GDP Q2/66 วันนี้

– สภาพัฒน์จ่อหั่นจีดีพีปีนี้ ผลส่งออกทรุด-ตั้งรัฐบาลช้า-รายได้ท่องเที่ยว ไม่ฟื้น “ทีดีอาร์ไอ” ประเมินจีดีพี 3.0-3.5% จากท่องเที่ยวฟื้นตัว ส่วน “นิด้า” แนะประคองเศรษฐกิจโต 3% รับส่งออกและท่องเที่ยวชะลอ

– เพื่อไทย” ดันนโยบายหาเสียง 1.8 ล้านล้านบาท หนุนเงินดิจิทัล จัดสวัสดิการผู้สูงวัย บริหารจัดการน้ำ “ทีดีอาร์ไอ” ชี้กระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นจำเป็น แต่ควรใช้แค่ 1-2 แสนล้าน แนะลดใช้งบแทนการกู้ “ณรงค์ชัย” หนุนเงินดิจิทัล ดันไทยเข้ายุค Web3.0 แต่ให้ทยอย ห่วงรัฐบาลวุ่นวายเหตุแบ่ง งบประมาณไม่ลงตัว แนะขึ้นภาษีหากจ่ายสวัสดิการคนแก่ถ้วนหน้า

– “อุ๊งอิ๊ง” ทำบุญวันเกิด 37 ขวบล่วงหน้า ขอพรพระให้ “ทักษิณ” กลับบ้านราบรื่น-ปลอดภัย ขอโทษ ปชช.จับมือ 2 ลุง เหตุแลนด์สไลด์ไม่สำเร็จ มั่นใจ “เศรษฐา” ได้เป็นนายกฯ ยังกั๊กนั่ง รมต. ขอลุยงานพรรคก่อน “เพื่อไทย” นัดพรรคร่วมฯ แถลงตั้ง รบ.วันนี้ มี พปชร.-รทสช.ด้วย

– ตลาดหุ้นกู้ยังเสี่ยง วงการจับตา “หุ้นกู้” ที่เตรียมครบกำหนดชำระปีนี้ หวั่นเป็นระเบิดเวลา โดยเฉพาะกลุ่มอสังหาฯ-ก่อสร้าง หวังทุกภาคส่วนช่วยจำกัดความเสี่ยงป้องโดมิโนเอฟเฟกต์ ด้านนักลงทุนสถาบัน เข้มลงทุน ขอจ่ายผลตอบแทนรายเดือนในกลุ่มนอนเรตติ้ง ย้ำลงทุนระดับ A หรือ บิ๊กเนม ปลอดภัยสุด

 

หุ้นเด่นวันนี้

 

– TRUE (ดาโอ) เป้าเชิงกลยุทธ์ 7.20 บาท)คาดรายได้บริการจะฟื้นตัวครึ่งปีหลัง จากฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้น และ IPHONE ออกโทรศัพท์รุ่นใหม่ (ปลาย ก.ย.) หนุนด้วย ARPU ของธุรกิจ Mobile และ Broadband ที่ฟื้นตัวพร้อมกับ Subscriber ตาม Seasonal ผลการดำเนินงานไตรมาส 2-3 ปี 66 ที่ออกมาขาดทุน 2.3 พันลบ. ขณะที่ EBITDA ยังเป็นบวก ถึง 2.2 หมื่นลบ. เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายทางบัญชี ในรายการค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (ขยายโครงข่าย+ปรับอายุการใช้งานของสินทรัพย์) เราจึงไม่ได้มองว่า การรายงานว่าขาดทุน ทำให้หุ้นดูไม่น่าสนใจ Bloomberg Consensus ประเมินกำไรสุทธิปี 2566 ยังขาดทุน 4.2 พันลบ. แต่ ปี 2567 จะพลิกจากขาดทุนมาเป็นกำไร 2.5 พันลบ. ตามลำดับ

– BEM (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 11.50 บาท เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งปีหลัง จากปัจจัยูกาลซึ่งปกติจะดีกว่าครึ่งปีแรก ปริมาณผู้โดยสารรถไฟฟ้าและจำนวนรถยนต์บนทางด่วนที่ยังอยู่ในระดับสูงและเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หากสามารถจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ภายในไตรมาส 3/66 เราคาดว่าจะเป็น Sentiment บวกจากโอกาสที่จะได้เซ็นสัญญารถไฟฟ้าสายสีส้มที่ชนะประมูลไปแล้วช่วยหนุนการเติบโตระยะยาว ขณะที่ราคาหุ้นยังไม่สะท้อนมูลค่าส่วนเพิ่ม 1-1.50 บาท

– BCH (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้า 20 บาท สธ. ระบุมีผู้ป่วยไข้เลือดออกในประเทศเพิ่มขึ้น 5-6 พันคนต่อสัปดาห์ เสี่ยงการระบาดในปีนี้อาจพุ่งสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี เป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลโดยเฉพาะผู้ประกอบการที่เน้นผู้ป่วยในประเทศ

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ส.ค. 66)

Tags: , , ,
Back to Top