AURA ครึ่งปีหลังไฮซีซั่นหนุนดันรายได้ทำได้ตามเป้า เร่งขยายสาขาใหม่-ขยายฐาน

นายอนิพัทธ์ ศรีรุ่งธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บมจ.ออโรร่า ดีไซน์ (AURA) เปิดเผยว่าแนวโน้มครึ่งปีหลังบริษัทยังดำเนินงานตามแผนทั้งการเปิดสาขาใหม่ทั่วประเทศและขยายกลุ่มลูกค้ามากขึ้น

สำหรับแผนการเติบโตของธุรกิจขายสินค้าทองและเครื่องประดับเพชร ปัจจุบันบริษัทมีสาขาจำนวน 319 สาขา ซึ่งในปีนี้มีแผนเปิดสาขาอีก 40 สาขา คาดว่าจะเปิดสาขาได้ครบตามเป้า 343 สาขาภายในสิ้นปี สร้างยอดขายรวมประมาณปีละ 30,000 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 12% ต่อปี จากปีก่อนซึ่งมีรายได้จากการขาย 29,358.2 ล้านบาท

รวมทั้งแผนการโปรโมทแบรนด์เพื่อขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้น โดยจำนวนลูกค้าของบริษัทเพิ่มขึ้นมากกว่า 100,000 คนจากปีก่อน ซึ่งบริษัทได้ร่วมธุรกิจกับพาร์ทเนอร์ต่าง ๆ อาทิ ธนาคาร ส่งผลให้จำนวนลูกค้ากว่า 70% ที่เข้ามาใช้บริการที่สาขาเป็นกลุ่มลูกค้าใหม่ รวมทั้งบริษัทได้มุ่งขายสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง โดยล่าสุดได้ร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์ เปิดตัวบริการรับฝากพระ ซึ่งเป็นสินค้าที่มีอัตราทำกำไรสูง และดึงลูกค้ากลุ่มใหม่เข้ามาหน้าร้านมากขึ้นเพิ่มโอกาสในการขายสินค้า

สำหรับแผนการเติบโตของธุรกิจขายฝากทองรูปพรรณ และเครื่องประดับ บริษัทตั้งเป้าปีนี้บัญชีลูกหนี้ (Account Receivable : A/R) เติบโต 2,788 ล้านบาท โดยมีแผนขยายสาขาร้านทองมาเงินไป โดยในครึ่งปีแรกเปิดสาขาในรูปแบบ Shop in Shop 242 สาขา จากเป้าหมายเปิดร้าน 264 สาขาในสิ้นปี และการเปิดสาขารูปแบบ Stand Alone ซึ่งปัจจุบันเปิดร้านได้ 70 สาขาตามเป้าของปีนี้แล้ว และบริษัทยังคงมองหาโอกาสในการขยายสาขาต่อไป และมุ่งเน้นการเพิ่มยอดใช้แอพลิเคชั่นเพื่อขยายฐานข้อมูลลูกค้า และช่วยเพิ่มความสะดวกสะบายให้กับลูกค้ามากขึ้น ซึ่งสัดส่วนยอดการใช้งานผ่านแอพลิเคชั่นปัจจุบันเพิ่มขึ้นจากปี 65 ที่ 69% สู่ 80% ในปี 66

นอกจากนี้ธุรกิจขายฝากทองรูปพรรณ และเครื่องประดับ ครึ่งปีแรกมีรายได้อยู่ที่ 2,305.4 ล้านบาท มั่นใจเติบโตได้ตามเป้ารายได้ 2,788 ล้านบาทในสิ้นปีนี้ และตั้งเป้ารายได้จากธุรกิจไฟแนนซ์ปี 67 อยู่ที่ 3,800 ล้านบาท อัตราเติบโตเฉลี่ย 41.5% ต่อปีตั้งแต่ปี 65 ถึงปี 67

ส่วนไตรมาส 2/66 บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงานรวม 7,616.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) จากการเพิ่มขึ้นของรายได้การขายสินค้าในส่วนของ Modern Gold และสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง (High Margin Products) ในกลุ่มสินค้าเครื่องประดับเพชร และ Design Gold จากยอดขายสาขาเดิมและการเปิดสาขาใหม่

อย่างไรก็ตามไตรมาส 2/66 บริษัทมีกำไรสุทธิ 199.5 ล้านบาทลดลง 25.4% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/66 เนื่องจากไตรมาส 2 เป็นช่วงนอกฤดูกาลของธุรกิจ รวมถึงการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการขายจากการจัดโปรโมชั่นกลางปีเพื่อกระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการจัดสรรทรัพยากรส่วนของงานสนับสนุนการขยายธุรกิจให้ได้ตามเป้าหมายของบริษัท

รายได้จากการดำเนินงานของบริษัทในครึ่งปีแรกอยู่ที่ 15,091.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งในไตรมาส 4/66 เป็น High season หรือเป็นช่วงที่ดีที่สุดของธุรกิจ

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 ส.ค. 66)

Tags: , , ,
Back to Top