สว.วันชัย แนะจับตาปลายปีมีเปลี่ยนแปลงใหญ่ เชื่อรัฐบาล “เศรษฐา” เป็นความหวัง

นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญวุฒิสภา เปิดเผยถึงการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาว่า คาดว่าจะใช้เวลาราว 2 วัน เบื้องต้นในกรอบการแถลงนโยบายรัฐบาล สั้น กระชับ และเป็นภาพกว้างสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ทั้งนี้ จะเปิดโอกาสให้สมาชิกรัฐสภาได้อภิปรายซักถาม เช่น ประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อกรณีของการยกร่างใหม่ โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เป็นต้น

พร้อมเชื่อมั่นว่า รัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ จะต้องอยู่ครบเทอมให้ได้ ผ่านการตั้งใจทำงาน มีผลงานมากและเร็ว เพื่อให้ประชาชนยอมรับ และเป็นข้อต่อสู้กับฝ่ายค้าน เพราะหากยุบสภาเร็ว ฝ่ายค้านจะเอาไปกินแน่นอน

นายวันชัย กล่าวว่า ในการบริหารงานของรัฐบาลใหม่ จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยปลายปีนี้ จะเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แบบที่สังคมไทยคาดไม่ถึงแน่นอน พร้อมเปรียบเปรยว่าหากใครที่ดูภาพยนตร์เรื่อง “แผลเก่า” ขอให้เลิกดู เพราะขณะนี้จะมีภาพยนตร์เรื่องใหม่ คือ “มนต์รักสีชมพู” หรือ “มนต์รักสยาม 2023” เกิดขึ้น

“ภาพยนตร์เรื่องใหม่นี้ อำนวยการสร้างจากหลายฝ่าย ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงเป็นความหวังของประชาชน สังคมไทย ผมได้ข้อมูลอยู่บ้าง ขอให้เลิกยึดติดกับเรื่องเก่าๆ และมองไปข้างหน้า เพราะเมื่อนายเศรษฐา เป็นนายกฯ ทำให้ดวงดาวราหูต้องย้าย ต้องหนี ต้องไป ถือเป็นความเปลี่ยนแปลงใหญ่ ถือว่ามนต์รักสีชมพูเกิดแล้ว” นายวันชัย กล่าว

พร้อมระบุว่า ยุคของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จบไปแล้วตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค.66 ดังนั้นหากใครยังถามเรื่องปฏิวัติ ถือว่าตกยุค และหากจะปฏิวัติ รัฐประหารได้ แปลว่ารัฐบาลชุดนี้ทำให้เกิด เพราะบริหารประเทศไม่ดี โกงกิน ทุจริตคอร์รัปชั่น และมีความแตกแยกกัน รวมถึงไม่มีผลงาน หากเป็นเช่นนั้นไม่ต้องให้ปฏิวัติ เพราะประชาชนจะลุกไล่เอง

สำหรับพรรคก้าวไกลไม่ใช่ส่วนของความแตกแยก แต่พรรคก้าวไกลเป็นเพียงความเห็นต่างระหว่างวัย และจำเป็นต้องมี หากรัฐบาลทำงานมีผลงานดี ประชาชนยอมรับ ความเห็นดังกล่าวเป็นแค่ความเห็นต่าง แต่ไม่สามารถทำให้สังคมเกิดความแตกแยกได้ ดังนั้น มั่นใจว่าหากรัฐบาลทำงานดีมีผลงาน และมีนายกฯ คนใหม่ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงได้ จะสามารถเปลี่ยนคู่ขัดแย้ง โดยเฉพาะพรรคก้าวไกลได้ และเปลี่ยนให้เสียงของพรรคก้าวไกลเป็นแค่เสียงไกลๆ เท่านั้น

“บทเรียนในอดีตที่บาดเจ็บลึกสาหัส 20 ปี มีคนบาดเจ็บ ล้มตาย ติดคุก และมีคนหนีไปจากประเทศ หากไม่สำนึก ไม่เอาบทเรียนในอดีตมาใช้ แปลว่าไม่ต้องผุดต้องเกิด ผมเชื่อว่าความสาหัสนั้นจบแล้ว และไม่มีใครเอาเรื่องในอดีตและบทเรียนในอดีตทำให้เกิดปัญหา เพราะเจ็บทั้งตัว แตกแยกทั้งแผ่นดิน สร้างรอยร้าวลึกให้สังคม ไม่ควรมีอีก เท่าที่ผมทราบ เหตุที่เกิดขึ้นในวันที่ 22 ส.ค. คือปฐมบทของการเปลี่ยนแปลง และปัญหาดังกล่าว จะจบไปจากประเทศไทย” นายวันชัย ระบุ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ก.ย. 66)

Tags: , , , , ,
Back to Top