รมว.ท่องเที่ยวฯ มอบนโยบายผลักดันวีซาฟรี สร้างเม็ดเงินเข้าประเทศกระตุ้นเศรษฐกิจ Quick Win

น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา (กก.) เปิดเผยในการประชุมติดตามและขับเคลื่อนภารกิจของกระทรวงฯ ว่า ที่ผ่านมาทั่วโลกได้ประสบกับวิกฤต ทั้งโรคระบาด เศรษฐกิจชะลอตัว ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง สงคราม ภาวะโลกร้อน และการก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยแบบสมบูรณ์ ทำให้วันนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทาย ซึ่งจำเป็นต้องเร่งแก้ไข ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง และพัฒนาเพื่อฟื้นฟูพลิกฟื้นประเทศ

ทั้งนี้ ภายใต้รัฐบาลโดยการนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา นโยบายกรอบเร่งด่วนมีหลายประเด็น หนึ่งในนั้น คือ การกระตุ้นเศรษฐกิจจากการผลักดันการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว เนื่องจากการท่องเที่ยวจะเป็นกุญแจดอกแรกในการสร้างรายได้ ที่จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในระยะสั้นแบบ Quick Win และสามารถสร้างงานให้กับประชาชนเป็นจำนวนมากได้

ดังนั้น รัฐบาลจึงได้มีมาตรการเร่งด่วน จากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 66 คือ จะมีการยกเว้นวีชาให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีน และคาซัคสถานเป็นเวลา 5 เดือน เริ่มจากวันที่ 25 ก.ย. 66-29 ก.พ. 67 ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ช่วยกันขับเคลื่อนนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยว นโยบายแรกของรัฐบาลนี้ให้เต็มที่ด้วย

น.ส.สุดาวรรณ กล่าวว่า นอกจากจะผลักดันการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวในระยะเร่งด่วนแล้ว ความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ที่จะต้องร่วมมือกับภาคีเครือข่ายเพื่อปราบธุรกิจสีเทา และธุรกิจผิดกฎหมายทุกประเภท ยกระดับฐานข้อมูลด้านการท่องเที่ยว และใช้ประโยชน์ในการวางแผนนโยบายอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาช่วยพัฒนาการท่องเที่ยวในทุกมิติ และส่งเสริมมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ที่ดีต่อประเทศไทย

ในด้านกีฬา จะต้องส่งเสริมการออกกำลังกายและการเล่นกีฬาเพื่อเสริมสร้างสุขภาพที่ดีของประชาชน ทุกกลุ่ม ทุกวัย ส่งเสริมและพัฒนากีฬาอย่างเป็นระบบ เพื่อพัฒนานักกีฬาผู้ฝึกสอน และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่กีฬาขั้นพื้นฐาน กีฬาเพื่อมวลชน กีฬาเพื่อความเป็นเลิศ และกีฬาเพื่อการอาชีพ

นอกจากนี้ ที่สำคัญต้องไม่ลืมที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมกีฬา ส่งเสริม และสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติ และกิจกรรมกีฬาเพื่อการท่องเที่ยว (Sport Tourism) อย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม เพื่อให้เกิดการสร้างรายได้และมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศ

อย่างไรก็ดี กระทรวงฯ เพียงหน่วยงานเดียว ไม่สามารถขับเคลื่อน และพัฒนาการท่องเที่ยวและกีฬาของประเทศได้ จำเป็นต้องบูรณาการการทำงานกับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การบูรณาการการทำงานผ่านกลไกของคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ และคณะกรรมการนโยบายการกีฬาแห่งชาติ ซึ่งมีองค์ประกอบเป็นหน่วยงานที่สำคัญ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ก.ย. 66)

Tags: ,
Back to Top