มท.1 ชู 10 นโยบายด่วน “ปราบมาเฟีย-จัดระเบียบสังคม-ส่งเสริมศก.ฐานราก”

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย พร้อมด้วยนายทรงศักดิ์ ทองศรี นายชาดา ไทยเศรษฐ์ นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย รวมทั้ง ผู้บริหาร ข้าราชการ และบุคลากร ภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมประชุมเพื่อขับเคลื่อนนโยบายสำคัญ 10 ประเด็น ซึ่งเน้นย้ำใน 4 ประเด็น ได้แก่

1.การปกป้องและเทิดทูนสถาบันหลักของชาติ โดยให้การดำเนินงานเพื่อส่งเสริมการพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันหลักของชาติ คือ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์

2.น้ำดื่มสะอาดฟรี ลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชน ให้บูรณาการความร่วมมือระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การประปานครหลวง การประปาส่วนภูมิภาค และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อขับเคลื่อนให้ครัวเรือนสามารถเข้าถึงน้ำสะอาดเพื่อการอุปโภคบริโภคอย่างทั่วถึง

3.การลดค่าใช้จ่ายพลังงานไฟฟ้าและน้ำมันของทุกส่วนราชการ สร้างต้นแบบให้ประชาชนได้เห็นตัวอย่างของการใช้พลังงานทางเลือกด้วยการส่งเสริมการติดตั้ง Solar Cell/Solar Rooftop ในสถานที่ราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และใช้กับไฟฟ้าส่องสว่างสาธารณะ นอกจากนี้ยังต้องส่งเสริมสนับสนุนให้สถานที่ราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ

4.การจัดระเบียบสังคม ปราบปรามผู้มีอิทธิพล หรือกลุ่มที่มีการใช้อำนาจเหล่านั้นในทางมิชอบ

“หน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยคือ มุ่งเน้นการจัดระเบียบสังคมเพื่อสร้างสังคมให้สงบสุข บ้านเมืองเป็นระเบียบเรียบร้อย ปลอดอบายมุข ประชาชนมีความมั่นคงปลอดภัย สิ่งใดที่ขัดกับความมุ่งหมายนี้ก็คือสิ่งที่เราต้องใช้กลไกของรัฐในการกำจัดให้สิ้นไป”

นายอนุทิน กล่าว

นอกจาก 4 นโยบายดังกล่าวแล้วยังมีประเด็นนโยบายสำคัญในการขับเคลื่อน ประกอบด้วย

5.พลังงานสะอาด มุ่งเน้นการใช้พลังงานสะอาด โดยสนับสนุนให้มีการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell) ในที่อยู่อาศัย เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับประชาชน รวมไปถึงการเพิ่มรายได้จากการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าส่วนเกินที่ผลิตได้ให้แก่รัฐ ตลอดจนส่งเสริมให้ครัวเรือนและชุมชนสร้างรายได้จากพลังงานสะอาด โดยการจัดตั้งธนาคารคาร์บอนเครดิตในพื้นที่ทุกจังหวัด

6.การบริการประชาชนแบบ One Stop Service มุ่งหน้าสู่ระบบรัฐบาลดิจิทัลเป็นแนวทางสำคัญของรัฐบาล ที่ถือเป็นการสร้างโครงสร้างพื้นฐานให้ประเทศในอีกรูปแบบหนึ่ง กระทรวงฯ จะนำเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัยมาใช้ในการปฏิบัติราชการ การทำธุรกรรม เพิ่มประสิทธิภาพ และความโปร่งใส ซึ่งนอกจากจะอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติราชการแล้ว ยังเพิ่มความสามารถในการให้บริการประชาชนมากยิ่งขึ้น พร้อมไปกับเป็นการลดการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ ขจัดช่องโหว่ที่เอื้อต่อการทุจริตอีกด้วย

7.การอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ส่งเสริมให้จังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น วางแผนการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว บูรณาการจากทุกภาคส่วนในพื้นที่ เพื่อจัดระเบียบพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว จัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ สำหรับรองรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม ไปจนถึงดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว

8.การส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก การผลิต การตลาด และการจำหน่าย เรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนตามอัตลักษณ์ที่โดดเด่น (OTOP) ซึ่งสามารถทำได้ด้วยการประสานกับภาคเอกชน เพื่อให้เข้าใจแนวโน้มตลาดมากขึ้น การสร้างพลังสร้างสรรค์ หรือ Soft Power ซึ่งจะนำสู่การส่งออกสินค้าเชิงวัฒนธรรม และนำหลักการตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ให้ผู้ประกอบการในชุมชนท้องถิ่นเป็นหน่วยธุรกิจในการสร้างงานสร้างรายได้ตามแนวทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนด้วย

9.การแก้ไขปัญหายาเสพติด เสริมสร้างความเข้มแข็งของหมู่บ้าน ชุมชน ตามแนวทางหมู่บ้าน ชุมชนสีขาวปลอดยาเสพติด มุ่งเน้นการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในระดับพื้นที่อย่างจริงจัง รวมทั้งการป้องกัน ปราบปรามและบังคับใช้กฎหมาย การบำบัดรักษา และการฟื้นฟูสภาพทางสังคม การสื่อสารเชิงรุก ให้มองผู้เสพ คือ ผู้ป่วยนำผู้เสพยาเสพติดไปเข้ารับการบำบัดรักษาและได้รับการฟื้นฟู เพื่อคืนคนดีสู่สังคม โดยบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหายาเสพติด ให้หมดไปจากสังคมไทย

10.สนับสนุนการพัฒนาระบบสาธารณสุขปฐมภูมิ และการเตรียมความพร้อมท้องถิ่นรองรับสังคมผู้สูงอายุ

“ที่สุดแล้ว ขอให้บุคลากรทุกท่านยึดหลักการทำงาน ทันโลก ทันสมัย ทันท่วงที ขอให้ช่วยกันพิจารณาว่าระเบียบที่ใช้อยู่นั้น ยังส่งเสริมการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพอยู่หรือไม่ อะไรไม่จำเป็นให้ตัดออก อะไรที่ยังทำงานได้ดี ก็ให้ปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายเป็นการเติบโตของเศรษฐกิจ การพัฒนาทางสังคม รายได้ และมีความสุขและความพึงพอใจของประชาชน เป็นตัวชีวัดความสำเร็จ”

นายอนุทิน กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ก.ย. 66)

Tags: , ,
Back to Top