STI ร่วมคว้างานที่ปรึกษาสร้างอาคาร รพ.รามาธิบดีและย่านนวัตกรรมโยธีดัน Backlog ทะลุ 4 พันลบ.

นายไพรัช เล้าประเสริฐ รองประธานกรรมการบริหาร บมจ.สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ (STI) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คว้าดีลใหญ่แห่งปี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโครงการชั้นนำระดับประเทศ ในการเป็นที่ปรึกษาหลัก (Lead Firm) ร่วมกับ PPS โครงการก่อสร้าง “อาคารโรงพยาบาลรามาธิบดีและย่านนวัตกรรมโยธี” มูลค่าการควบคุมงานอยู่ที่ 346 ล้านบาท โดยเป็นอาคารสูง 25 ชั้น และชั้นใต้ดิน 2 ชั้น พื้นที่ก่อสร้าง 324,540 ตร.ม. เป็นอาคารโรงพยาบาลชั้นนำของประเทศไทยที่มีความทันสมัยด้านนวัตกรรมทางการแพทย์ โดยให้บริการระดับจตุตถภูมิ (Quaternary Care) ที่มีศักยภาพและความพร้อมในการดูแลรักษาผู้ป่วยหนัก ผู้ป่วยโรคยากและซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

รวมถึงเป็นศูนย์การเรียนการสอนผลิตบัณฑิตแพทย์ พยาบาล การฝึกอบรมบุคลากรทางการแพทย์ สาธารณสุขและด้านการสร้างเสริมเพื่อประโยชน์แก่สังคมและเสริมสร้างเครือข่าย และขับเคลื่อนความร่วมมือของย่านนวัตกรรมโยธี (Yothi Medical Innovation District) เพื่อใช้ประโยชน์พื้นที่ให้เกิดคุณูปการแก่ส่วนรวมและประเทศชาติ และเชื่อมโยงสถาบันทางการแพทย์ต่าง ๆ ให้เกิดกับเครือข่ายที่จะใช้ทรัพยากรร่วมกันให้เกิดประโยชน์สูงสุด นับเป็นอีกหนึ่งในกลุ่มงานโรงพยาบาล ที่ไว้วางใจให้ STI ดูแลต่อเนื่อง สนับสนุนการเติบโต เพิ่มศักยภาพสร้างรายได้มากขึ้นในอนาคต และขยายฐานลูกค้าตามเป้าหมายที่บริษัทกำหนด

ความสำเร็จในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นผู้นำด้านการบริหารและควบคุมงานก่อสร้างงานโรงพยาบาลที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ซึ่งในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา STI ได้สะสมผลงานโรงพยาบาลในหลายแห่งทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ถือเป็นผู้นำในด้านการควบคุมงานโรงพยาบาลที่มีผลงานมากที่สุดในปัจจุบัน จึงนับเป็นโอกาสที่ดีที่จะสามารถเข้าไปแข่งขันการประมูลงานเพิ่มเติม เพราะเรามองว่าธุรกิจด้านคุมงานก่อสร้าง Health & Wellness และสังคมผู้สูงวัย กำลังได้รับความสนใจ และมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้งานก่อสร้างโครงการที่ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาควบคุมดูแลให้เป็นไปตามมาตรฐานนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญ จึงมั่นใจว่า STI เราคือหนึ่งในผู้นำที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้างโครงการโรงพยาบาลชั้นนำของไทย

สำหรับ โครงการอาคารโรงพยาบาลรามาธิบดีและย่านนวัตกรรมโยธี ที่บริษัทได้รับการสนับสนุน ส่งผลให้ปัจจุบันกลุ่มบริษัท STI มีงานในมือ (Backlog) เพิ่มขึ้นกว่า 4,000 ล้านบาท เสริมศักยภาพการรับรู้รายได้ในระยะยาว พร้อมเดินหน้าประมูลโครงการใหม่ต่อเนื่อง ทั้งภาครัฐบาลและภาคเอกชน นำความเชี่ยวชาญ และเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุน รับภาพรวมโครงการเมกะโปรเจกต์ในประเทศพร้อมเดินหน้าเต็มกำลัง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ก.ย. 66)

Tags: , ,
Back to Top