เงินบาทเปิด 36.12 อ่อนค่าต่อเนื่อง กังวลเสถียรภาพศก.ไทย รอผลเฟดคืนนี้

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 36.12 บาท/ดอลลาร์ จากปิดตลาดเย็น วานนี้ที่ระดับ 35.99 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทเปิดอ่อนค่า เนื่องจากตลาดกังวลเสถียรภาพเศรษฐกิจไทย จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ รวมถึง ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับปัจจัยต่างประเทศที่เมื่อคืนนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ พุ่งขึ้นมา จึงเป็นปัจจัยกดดันเงินบาท ด้านสกุล เงินในภูมิภาคเช้านี้เคลื่อนไหวไร้ทิศทาง ทั้งอ่อนค่าและแข็งค่า

“เช้านี้เงินบาทเปิดที่ 36.12 บาท/ดอลลาร์ ถือเป็นระดับที่อ่อนค่าตั้งแต่เดือนพ.ย. 65” นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 35.90 – 36.20 บาท/ดอลลาร์ สำหรับคืนนี้ ตลาดรอติดตามผลประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ของสหรัฐฯ เป็นหลัก SPOT ล่าสุด อยู่ที่ระดับ 36.27000 บาท/ดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญ

– เงินเยนอยู่ที่ 147.80 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 147.68 เยน/ดอลลาร์ – เงินยูโรอยู่ที่ 1.0684 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0682 ดอลลาร์/ยูโร

– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท. อยู่ที่ระดับ 35.837 บาท/ดอลลาร์

– “เศรษฐา” เข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยสามัญ ครั้งที่ 78 (UNGA78) ชูออกกรีนบอนด์ 7.2 หมื่นล้านบาท พร้อมนำทัพนักธุรกิจไทยโรดโชว์นักลงทุนใหญ่สหรัฐฯ กล่อมย้ายฐานลงทุนมาไทย โดยมีกำหนดพบปะกับ “อีลอน มัสก์” รวมทั้ง โกล์ดแมนแซ ค-เจพีมอร์แกน-ไมโครซอฟท์-ซิตี้แบงก์, เอสเต้ ลอเดอร์ และกองทุนแบล็กล็อก

– ตลท.ชี้เก็บภาษีเงินลงทุน ต่างประเทศเป็นผลดีต่อประเทศ มองหากเก็บจากรายได้กระทบนักลงทุนหนักกว่าคิดจากกำไร ด้าน “อดีตประธานเฟทโก้” ย้ำต้องแฟร์กับนักลงทุน แนะคิดกำไรจากพอร์ตลงทุนทั้งปี หากขาดทุนไม่เก็บภาษี ด้าน “จิตตะ” ขอสรรพากร ทบทวน หวั่นกระทบรายย่อย

– เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า หลังเปิดตัว วีซ่าพำนักระยะยาว หรือ Long-Term Resident Visa (LTR Visa) อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2565 โดยในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา (1 ก.ย.2565-31 ส. ค.2566) มีผู้ยื่นขอ LTR Visa รวม 4,842 ราย โดยชาวต่างชาติ 3 อันดับแรก ได้แก่ ยุโรป 2,179 ราย สหรัฐอเมริกา 810 ราย และจีน 507 ราย

– ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (19 ก.ย.) ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE)

– สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันอังคาร (19 ก.ย.) ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงิน ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีการแถลงในวันพุธ (20 ก.ย.) ตามเวลาสหรัฐ

– นักลงทุนยังรอดูผลการประชุมเฟดในวันพุธตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดีตามเวลาไทย โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 99.0% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุม ครั้งนี้ และให้น้ำหนัก 70.9% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวในการประชุมเดือนพ.ย.

– นักวิเคราะห์จากบริษัท U.S. Bank Wealth Management กล่าวว่า ตลาดจับตาผลการประชุมเฟดรอบนี้ และหาสัญญาณ ที่ชัดเจนจากแถลงการณ์ของคณะกรรมการเฟดซึ่งจะมีการเปิดเผยหลังการประชุม โดยเฉพาะมุมมองของเฟดที่มีต่อเงินเฟ้อ แม้ว่าตัวเลข เงินเฟ้อของสหรัฐปรับตัวลงเป็นวงกว้างในปีที่ผ่านมา แต่การที่เงินเฟ้อจะกลับสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% นั้น ถือเป็นเรื่องที่ท้าทาย

– นักลงทุนยังรอดูการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด (Dot Plot) ตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อ อัตราว่างงาน, การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และการแถลงข่าวของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด

– นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันพฤหัสบดีนี้ รวมถึงการเปิดเผยข้อมูล เงินเฟ้อของอังกฤษ ขณะที่ตลาดการเงินคาดว่า มีโอกาส 80% ที่ BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.5% ในวันพฤหัสบดีนี้

– ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่จะเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดขายบ้านมือสอง เดือนส.ค., ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนส.ค.จาก Conference Board, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนก.ย.เอส แอนด์พี โกลบอล และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนก.ย.เอสแอนด์พี โกลบอล

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ก.ย. 66)

Tags: , ,
Back to Top