กทม.พัฒนา Traffy Fondue Plus แอปฯแจ้งเตือนภัย-รับแจ้งเหตุ ทดลองใช้ม.ค. 67

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตือนเหตุฉุกเฉินในพื้นที่กรุงเทพฯ สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่ห้างสยามพารากอนว่า ในส่วนของกทม. อยู่ระหว่างพัฒนา Traffy Fondue Plus เป็นแอปพลิเคชันแจ้งเหตุต่างๆ โดยประชาชน ซึ่งปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียน Traffy Fondue กทม. อยู่กว่า 4 แสนคน ถือเป็นอัตราส่วนที่มากเมื่อเทียบกับประชากรตามทะเบียนราษฎร์กว่า 5 ล้านคน

นายชัชชาติ กล่าวว่า กทม. กำลังพัฒนา Traffy Fondue Plus ให้มีส่วนของเมนู “รับข่าวสารเตือน” ซึ่งประชาชนสามารถคลิกเพื่อรับข่าวสารและแจ้งเหตุ โดยสามารถเลือกพื้นที่ที่ต้องการแจ้งเหตุได้ และส่งข้อมูลให้กทม. รับทราบ ซึ่งระบบดังกล่าว กทม. มีความพร้อมด้านซอฟต์แวร์ในการส่งข้อความแจ้งเหตุต่างๆ ไปให้สมาชิกที่ต้องการรับทราบครบถ้วนแล้ว ขณะนี้เหลือเพียงการพูดคุยเรื่องค่าใช้จ่าย เนื่องจากการส่งข้อความดังกล่าว ต้องส่งผ่านแอปพลิเคชันอื่น อาทิ LINE ซึ่งมีค่าใช้จ่ายประมาณ 4 สตางค์ต่อ 1 ข้อความ จึงอยู่ระหว่างพูดคุยกับกสทช. ในเรื่องค่าใช้จ่ายดังกล่าว ซึ่งหากสำเร็จจะเป็นต้นแบบในการนำ Traffy Fondue มาให้ประชาชนเลือกรับข่าวสารฉุกเฉินและแจ้งเหตุฉุกเฉินได้ รวมถึงสภาพอากาศ และสภาพการจราจร

มีเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษให้บริการนักท่องเที่ยว

นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า Traffy Fondue Plus มีอีก 1 เวอร์ชันสำหรับนักท่องเที่ยว คือ Traffy Fondue ภาษาอังกฤษ เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวที่ต้องการร้องเรียน เรื่องแท็กซี่ผี ไกด์ผี การถูกโกง และความไม่สะดวกในการท่องเที่ยว

โดย กทม. จะแนะนำนักท่องเที่ยวในรูปแบบ QR Code ในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้แจ้งข้อมูลเข้าถึงสู่เว็บ Database ของกทม. เป็นอีกช่องทางสื่อสารกับนักท่องเที่ยว ซึ่งกทม. จะเริ่มดำเนินการก่อนทราบผลจากการพูดคุยกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)

ด้าน น.ส.ทวิดา กมลเวช รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า กทม. ได้หารือกับกสทช. ที่เคยศึกษาเรื่องทางเทคนิคไว้ก่อนแล้ว และมีข้อมูลในการเปรียบเทียบกับระบบที่ใช้กันอยู่ในประเทศต่างๆ และจะนำมาใช้ในประเทศไทย โดยได้ตั้งคณะทำงานร่วมกันเป็นคณะเล็ก ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินการประเมินความสามารถทางเทคนิคของระบบในการเตือนภัย ว่าควรทดลองในพื้นที่ใด

ทั้งนี้ คาดว่ากลางเดือนม.ค. 67 จะสามารถทดลองส่งข้อความเตือนภัยให้ประชาชนได้ โดยจะเน้นข้อความการเตือน Emergency alert หรือการเตือนฉุกเฉิน ให้ขึ้นข้อความเตือนภัยทันทีก่อน ข้อความเตือนภัยล่วงหน้า ซึ่งมีความแตกต่างกัน เพราะการเตือนภัยฉุกเฉิน ต้องมีความระมัดระวังในข้อความที่สื่อสาร และมีความพร้อมรองรับสถานการณ์ในพื้นที่ จึงต้องใช้เวลาในการพัฒนา ออกแบบ ปรับปรุง และเตรียมความพร้อมระบบเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ต.ค. 66)

Tags: , , , , ,
Back to Top