เงินบาทเปิด 36.31 อ่อนค่าสอดคล้องภูมิภาค หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐหนุนดอลลาร์แข็งค่า

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 36.31 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อน ค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 36.18 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทเคลื่อนไหวทิศทางเดียวกับสกุลเงินในภูมิภาค หลังจากที่เมื่อคืนนี้ ยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาดมาก ประกอบกับการประมูลพันธบัตร 5 ปี ออกมาค่อนข้างแย่ ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ขึ้นต่อ ส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบ สกุลเงินส่วนใหญ่

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 36.10 – 36.40 บาท/ดอลลาร์ ปัจจัยที่ต้องติดตาม วันนี้ คือ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) แถลงมติอัตราดอกเบี้ย ส่วนสหรัฐฯ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2566

ปัจจัยสำคัญ

– เงินเยนอยู่ที่ระดับ 150.26 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 149.93 เยน/ดอลลาร์ โดยเงินเยนอยู่ในระดับอ่อน ค่าสุดในรอบ 1 ปี เคลื่อนไหวตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงนี้

– เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0556 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0568 ดอลลาร์/ยูโร

– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 36.131 บาท/ดอลลาร์

– รัฐบาลเล็งยกเลิกแจก “เงินดิจิทัล” คนรวย ชงนายกฯ ตัดสิน 2 ทางเลือกสัปดาห์หน้า แจกเฉพาะถือบัตรคนจน 16 ล้านคน หรือ ตัดคนที่มีรายได้มากกว่า 2.5 หรือ 5 หมื่นบาท เงินฝาก 1 หรือ 5 แสนบาท เคาะแหล่งเงินจากงบรายจ่าย แต่ละปี มอบกรุงไทยพัฒนาระบบ คาดเลื่อนระยะเวลาใช้ 7-8 เดือน

– คลังรับต้นทุนพอร์ตเงินกู้รัฐบาลพุ่ง หลังอัตราดอกเบี้ยนโยบายปรับขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่กว่า 3% จากสิ้นเดือนส.ค.อยู่ที่ 2.6% ขณะที่ระดับหนี้สาธารณะแตะ 11.03 ล้านล้านบาท หรือ 61.78% ด้านนายกรัฐมนตรีสั่ง สบน.ศึกษาแผนออกบอนด์สกุลเงินต่าง ประเทศเพื่อทดสอบตลาดและสร้างดอกเบี้ยอ้างอิงให้เอกชน

– “แบงก์กรุงเทพ” เผยรัฐบาลเร่งผลักดันนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะโครงการลงทุนขนาดใหญ่ คาดเป็นโอกาส หนุนสินเชื่อโต ด้านภาพรวมหนี้ครัวเรือนลด ส่งผลไตรมาส 4/66 หนี้เสีย-สำรองวูบ ล่าสุด จับมือ “เดอะมอลล์” เปิดตัวบัตรโคแบรนด์ หวังขยายพอร์ตรายย่อยเพิ่ม คงพอร์ตสินเชื่อปีนี้ขยายตัว 4-6%

– ‘ทิสโก้’เปิดสถิติสงคราม 6 ครั้ง มองราคาทอง-น้ำมันปรับขึ้นรับข่าวสงครามแล้ว แนวโน้มขาขึ้นมีจำกัด คาดปี’67 พันธบัตรรัฐบาลมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าหุ้น

– มท.ไฟเขียวเตรียมออกกฎกระทรวงขยายเวลา “เปิดผับ-บาร์ถึงตี 4” ในพื้นที่ จว.ท่องเที่ยวกระตุ้นท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่น สร้างรายได้ขยายตัวด้านเศรษฐกิจ “อนุทิน” กำชับต้องดูแลบริหารจัดการตามกฎหมาย เตรียมเสนอเข้าครม.

– อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี พุ่งขึ้นแตะระดับ 4.95% ซึ่งทำให้ตลาดคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะตรึง อัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานขึ้น โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรดีดตัวขึ้นหลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้น 12.3% สู่ ระดับ 759,000 ยูนิตในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 65 และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองพุ่งขึ้น แตะระดับสูงสุดในรอบ 23 ปี

– ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (25 ต.ค.) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งขึ้นใกล้แตะระดับ 5% ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อ ประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

– สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (25 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองในฐานะ สินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางสถานการณ์ในตะวันออกกลางที่มีแนวโน้มรุนแรง

– นักลงทุนจับตาสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3/2566 ในวันนี้ ซึ่งจะเป็น ตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 รวมทั้งดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.ย.ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพรุ่งนี้

ทั้งนี้ ดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้ บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ต.ค. 66)

Tags: , ,
Back to Top