ไทยประสานรัสเซีย เร่งผลักดัน FTA ไทย-ยูเรเชียให้สำเร็จ

นางนลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย เปิดเผยว่า จากการที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ได้พบหารือกับนายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย ในระหว่างการประชุมที่ประเทศจีนเมื่อช่วงกลางเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดตนได้พบกับนายเยฟเกนี โตมีฮิน เอกอัครราชทูตสหพันธรัฐรัสเซียประจำประเทศไทย โดยรัสเซียให้ความสำคัญกับไทยในฐานะมิตรประเทศที่มีความสัมพันธ์ยาวนานและมีผลลัพธ์ในทางที่ดี และรู้สึกยินดีที่นายกรัฐมนตรีไทยได้พบกับประธานาธิบดีของรัสเซีย ซึ่งรัสเซียต้องการขยายความร่วมมือกับไทยในด้านต่างๆ เช่น พลังงาน การเงิน เทคโนโลยีดิจิทัล เคมีภัณฑ์ และการเกษตร

โดยสัปดาห์หน้า ผู้แทนธนาคารเพื่อการเกษตรของรัสเซียจะเดินทางเยือนไทย เพื่อเจรจาและร่วมมือทางด้านการเกษตรระหว่างกัน นอกจากนี้เอกอัครราชทูตรัสเซียยังสนับสนุนให้ทั้งสองฝ่ายเดินหน้าจัดทำความตกลง FTA ให้สำเร็จ และขอบคุณรัฐบาลไทยที่ได้เพิ่มวันพำนักให้นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียจาก 30 วันเป็น 90 วันอีกด้วย

ผู้แทนการค้าไทย กล่าวว่า ตนได้รับฟังความต้องการของทางรัสเซีย โดยจะทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อยกระดับความร่วมมือในมิติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ด้านการนำเข้าสินค้าของรัสเซีย ความมั่นคงทางด้านอาหารและพลังงาน ตลอดจนการปรับปรุงกฎหมายเพื่ออำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ

สำหรับการเจรจาความตกลง FTA นั้น รัสเซียได้เคยเสนอให้มีการจัดทำความตกลงระหว่างไทยกับสหภาพเศรษฐกิจยูเรเชีย (EAEU) ซึ่งประกอบด้วย รัสเซีย คาซัคสถาน เบราลุส คีร์กีซสถาน และอาร์เมเนีย ตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งต่อมาไทยได้ศึกษาและประเมินถึงประโยชน์ที่จะได้รับ เบื้องต้นพบว่าหากไทยและสหภาพเศรษฐกิจยูเรเชียยกเลิกภาษีนำเข้าระหว่างกันจะช่วยให้การนำเข้าและส่งออกขยายตัวขึ้น โดยสินค้าส่งออกของไทยที่มีโอกาสขยายตัว เช่น ยานยนต์ ยางและพลาสติก ผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องจักร รวมทั้งภาคบริการด้านสุขภาพและการท่องเที่ยว เป็นต้น ดังนั้นจึงหวังว่าไทยและรัสเซียจะเร่งผลักดันในเรื่องนี้ เพราะหากการเจรจาเพื่อจัดทำความตกลงสำเร็จก็จะเป็นผลดีกับทั้งสองฝ่าย

ทั้งนี้ รัสเซียเป็นคู่ค้าอันดับที่ 37 ของไทยในโลก และอันดับที่ 1 ในสหภาพเศรษฐกิจยูเรเชีย โดยการค้ารวมปี 2565 มีมูลค่า 1,854 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้มีโครงการลงทุนและร่วมทุนจากรัสเซียขอรับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ทั้งหมด 19 โครงการ มูลค่ารวม 190.75 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในภาคอุตสาหกรรมเกษตรอาหาร เทคโนโลยีชีวภาพ อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ และอุตสาหกรรมดิจิทัล ตามลำดับ

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 ต.ค. 66)

Tags: , , , , , , ,
Back to Top