ผลศึกษาประชามติคืบหน้า แสวงหาจุดร่วมเดินหน้าจัดทำร่างรธน.ฉบับใหม่

นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง กล่าวถึงความคืบหน้าการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ว่า ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาคณะอนุกรรมการฯ ได้รับฟังความคิดเห็นของประชาชนไปอย่างกว้างขวางครอบคลุมหลายภาคส่วน

ล่าสุดได้จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เป็นประธาน โดยมีการเสนอความคิดเห็นจากตัวแทนภาคประชาสังคมต่างๆ ที่มีความหลากหลาย เช่น ความเห็นเรื่ององค์ประกอบของ สภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่บางส่วนอยากให้เลือกตั้ง 100% ขณะที่บางกลุ่มอยากให้คำนึงถึงความหลากหลายและครอบคลุม หรือมีองค์ประกอบที่เป็นผู้มีความชำนาญเฉพาะทางด้วย และความเห็นเรื่องการดำรงความในหมวด 1 หมวด 2 ของรัฐธรรมนูญว่าจะเป็นการดึงการมีส่วนร่วมให้กว้างขวางขึ้นได้หรือไม่ เป็นต้น

ที่ผ่านมาคณะอนุกรรมการฯ ได้รับฟังความคิดเห็นจากผู้แทนพรรคก้าวไกล (กก.) เช่นกัน และได้มีการแลกเปลี่ยนความเห็นที่ได้รับฟังมาจากกลุ่มอื่นๆ ให้ทราบ เนื่องจาก พรรคก้าวไกลไม่ได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมอยู่ในคณะกรรมการฯ การเข้าพบในวันนั้น ผู้บริหาร พรรคก้าวไกลได้เสนอเกี่ยวกับการทำประชามติหลายประการ รวมถึงมีการเสนอปรับเปลี่ยนคำถามให้กระชับขึ้นว่าเห็นชอบหรือไม่ว่า ควรมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดย สสร. ซึ่งต่างจากที่เคยเสนอเข้าสภา เพราะเชื่อว่าจะสามารถโอบรับความเห็นต่างได้มากขึ้น เพื่อเอาชนะเงื่อนไขในมาตรา 13 ของ พ.ร.บ.ประชามติ เรื่อง เสียงข้างมากสองชั้น หรือ Double Majority ที่ต้องมีผู้ให้ความเห็นชอบต่อคำถามมากอย่างกว้างขวาง ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นอื่นๆ ที่คณะอนุกรรมการฯ ได้รวบรวมความเห็นมาว่า สังคมมีความเห็นที่แตกต่างในหลายประเด็น จึงได้น้อมรับความเห็นไว้เพื่อพิจารณาแนวทางที่รัดกุมต่อไป

ทั้งนี้รัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำมีความตั้งใจอย่างถึงที่สุดที่จะแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง เพื่อเดินหน้าสู่การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่สอดคล้องกับบริบทของประชาชน และน้อมรับความเห็นที่แตกต่างหลากหลายในสังคม เพื่อออกแบบการดำเนินการที่รัดกุมด้วยข้อกฎหมาย และยึดเอาจุดร่วมที่สังคมเห็นพ้องร่วมกันแล้วเป็นแกนหลัก เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการขับเคลื่อนครั้งนี้จะได้รับความเห็นชอบมากพอให้สำเร็จ และประเทศไทยจะได้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เป็นประชาธิปไตยมากขึ้นตามที่ประกาศไว้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 พ.ย. 66)

Tags: , , ,
Back to Top