ครม. รับทราบผลการดำเนินมาตรการ Quick Win นโยบาย 30 บาทพลัส

นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติรับทราบผลการดำเนินการมาตรการ Quick Win นโยบาย 30 บาทพลัส และข้อเสนอแนะมาตรการหารือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนเกี่ยวกับกรณีการป้องกันภาวะความพิการแต่กำเนิด

ทั้งนี้ การยกระดับ 30 บาทพลัส ที่ครอบคลุมการดูแลสุขภาพในทุกมิติ ทั้งการส่งเสริม ป้องกัน รักษา และฟื้นฟูสุขภาพ เพื่อสร้างสุขภาวะที่ดีของคนไทย ผ่านนโยบาย 12 ประเด็น โดย 1 ในนั้น คือ นโยบายมะเร็งครบวงจร ซึ่งมะเร็งปากมดลูก เป็นสาเหตการเสียชีวิตอันดับ 1 ของหญิงไทย โดยมีเป้าหมายลดอัตราการเสียชีวิตจาก 11/100,000 ประชากร เหลือเป็น 4/100,000 ประชากร

โดยมีเป้าหมายรฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส HPV ที่เป็นสาเหตุสำคัญของโรคมะเร็งปากมดลูก ให้ได้ 1 ล้านโดส ในหญิงอายุ 11-20 ปี เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยได้ปีละอย่างน้อย 4,000 คน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 8-27 พ.ย.66 ได้มีการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส HPV เฉลี่ยวันละ 40,794 เข็ม ฉีดสะสมไปแล้ว 507,506 เข็ม

พร้อมกันนี้ ครม. ยังมีมติรับทราบข้อเสนอแนะมาตรการหารือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนเกี่ยวกับกรณีการป้องกันภาวะความพิการแต่กำเนิด 2 มาตรการ ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ดังนี้

1. มาตรการป้องกันภาวะความพิการแต่กำเนิดก่อนการตั้งครรภ์

– ระยะสั้น ให้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ปรับปรุงเพิ่มสิทธิการเข้าถึงบริการกรดโฟลิกของหญิงไทย ที่เป็นผู้ประกันตนตามสิทธิประกันสังคม รวมถึงการขยายสิทธิให้สามารถเข้ารับบริการผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังค์ หรือบริการส่งวิตามินทางไกล

– ระยะกลาง ขยายสิทธิไปยังแรงงานต่างด้าวที่เป็นผูประกันตน และดำเนินการเชิงรุก ผ่านการส่งเสริมการแจกกรกโฟลิกในสถานประกอบการขนาดใหญ่

– ระยะยาว ขยายสิทธิไปยังกลุ่มคนไร้รัฐไร้สัญชาติ และแรงงานต่างดาวที่เข้าเมืองผิดกฎหมาย ให้ได้รับสิทธิเช่นเดียวกับประชาชนไทย

2. มาตรการป้องกันภาวะความพิการแต่กำเนิดระหว่างการตั้งครรภ์

– ระยะสั้น ให้ สธ. สปสช. และ สปส. ปรับปรุงเพิ่มวงเงินถัวเฉลี่ยให้ครอบคลุมการตรวจคัดกรองดาวน์ซินโดรม รวมถึงเพิ่มตัวเลือกให้หญิงตั้งครรภ์เลือกตรวจคัดกรอง โดยเสียค่าใช้ส่วนต่างที่ไม่ครอบคลุม และขยายสิทธิไปยังแรงงานต่างด้าวที่เป็นผู้ประกันตน

– ระยะกลาง ขยายสิทธิไปยังกลุ่มคนไร้รัฐ ไร้สัญชาติ และแรงงานต่างดาวที่เข้าเมืองผิดกฎหมาย ให้ได้รับสิทธิเช่นเดียวกับประชาชนไทย

– ระระยาว เปลี่ยนแปลงการตรวจคัดกรองเบื้องต้นมาเป็นแบบ NIPT (Non-Invasive Prenatal Testing การตรวจคัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมทากในครรภ์จากเลือดมารดา) โดยเริ่มจากกลุ่มเสี่ยงที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป เป็นประชาชนชาวไทยทั่วไป

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 พ.ย. 66)

Tags: , , , , , ,
Back to Top