สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้หารือร่วมกันถึงแนวทางที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทบทวนเกณฑ์การวางหลักประกันในบัญชีเงินสด เกณฑ์ระยะเวลาการส่งมอบหลักทรัพย์ และเกณฑ์การชำระค่าซื้อหุ้นล่วงหน้ากรณีหุ้นเข้าลักษณะร้อนแรง เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกันระหว่างผู้ลงทุนแต่ละประเภท ณ สำนักงาน ก.ล.ต. เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) นำโดยนางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ และผู้บริหาร ประชุมร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นำโดยนายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ และผู้บริหาร โดยได้มีการหารือกันถึงแนวทางที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทบทวนเกณฑ์การซื้อขายด้วยเงินสด (cash account) ในกรณีการวางหลักประกันก่อนซื้อหลักทรัพย์ เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกันระหว่างผู้ลงทุนรายย่อยและนิติบุคคลต่างประเทศที่ชำระราคาซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านคัสโตเดียนที่เป็นสมาชิกของสำนักหักบัญชี รวมทั้งจะพิจารณาปรับเกณฑ์ระยะเวลาส่งมอบหลักทรัพย์เป็นภายในวันที่ 2 ถัดจากวันขายหลักทรัพย์ (T+2) ให้เป็นเช่นเดียวกันสำหรับผู้ลงทุนทุกประเภท
นอกจากนี้ จะพิจารณาทบทวนมาตรการให้ลูกค้าซื้อหลักทรัพย์ด้วยบัญชีแคชบาลานซ์ (cash balance) กรณีมีการซื้อขายหลักทรัพย์ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเกณฑ์และมาตรการดังกล่าวมีความเหมาะสมกับสภาพการณ์ของตลาดในปัจจุบัน และมีความเป็นธรรมกับผู้ลงทุนแต่ละประเภท รวมถึงส่งเสริมและรักษาความมั่นคง ความมีประสิทธิภาพในการซื้อขายหลักทรัพย์ โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเร่งนำไปทบทวนเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องและนำมาเสนอต่อ ก.ล.ต.เพื่อพิจารณาและให้ความเห็นชอบต่อไป
นอกจากนี้ ยังได้หารือถึงเรื่องการทบทวนแนวปฏิบัติสำหรับสมาชิกเมื่อลูกค้ามีธุรกรรมขายชอร์ตที่ออกโดยสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (ASCO) ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ เห็นด้วยกับการทบทวนดังกล่าว เพื่อให้สอดคล้องกับบริบทปัจจุบัน รวมทั้งเพื่อให้มีความชัดเจนและมั่นใจยิ่งขึ้นว่าบริษัทหลักทรัพย์มีแนวปฎิบัติที่ได้มาตรฐานสากล อันจะเป็นการป้องกันการกระทำที่ไม่ถูกต้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 พ.ย. 66)
Tags: ก.ล.ต., ตลาดหลักทรัพย์